ดราม่าเมืองผู้ดี! ‘ซอสมะเขือเทศ’ หลังเปิดใช้แล้วต้องใส่ตู้เย็นหรือไม่?

ดราม่าเมืองผู้ดี! ‘ซอสมะเขือเทศ’ หลังเปิดใช้แล้วต้องใส่ตู้เย็นหรือไม่?

“ซอสมะเขือเทศ” หลังเปิดฝาใช้แล้ว “ต้องเก็บในตู้เย็น” หรือ “ไม่ต้องเก็บในตู้เย็น” หลังผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรเถียงเรื่องนี้กันไม่หยุดจนต้องมีการโหวต! นอกจากซอสมะเขือเทศ มีเครื่องปรุงอะไรอีกบ้างที่ควรเก็บในตู้เย็น? 

Key points: 

  • เกิดกรณีถกเถียงในกลุ่มผู้บริโภคสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับคำถามที่ว่า “ซอสมะเขือเทศ” ควรเก็บซอสในตู้เย็นหลังเปิดขวดใช้งานครั้งแรกแล้วหรือไม่?
  • ก่อนหน้านี้เคยมีชาวเน็ตถามคำถามนี้ไปยังบริษัท Heinz สาขาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางบริษัทก็ตอบว่า "ควรแช่เย็นซอสมะเขือเทศหลังจากเปิดแล้วเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์" 
  • ทั้งนี้ รายได้ในตลาดซอสมะเขือเทศ (Ketchup) มีมูลค่าถึง 35,470 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 และคาดว่าตลาดจะเติบโตปีละ 5.73%

เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เกิดการถกเถียงกันถึงวิธีเก็บรักษา “ซอสมะเขือเทศ” ในกลุ่มผู้บริโภคชาวอังกฤษ โดยต้นเรื่องเกิดขึ้นจากบริษัท Kraft Heinz ผู้ผลิตสินค้าซอสมะเขือเทศ (Ketchup) สาขาสหราชอาณาจักร ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์เพื่อสอบถามผู้บริโภคในหัวข้อที่ว่า หากเปิดขวดซอสมะเขือเทศในครั้งแรกแล้ว ควรเก็บซอสในตู้เย็นหรือนอกตู้เย็น? โดยมีการจัดทำโพลเพื่อโหวตคะแนนให้รู้ผลชัดๆ ไปเลย

หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้บริโภคทั้ง #ทีมเก็บใส่ตู้เย็น และ #ทีมไม่เก็บในตู้เย็น ออกมาแชร์ความคิดเห็นกันไปมาอย่างกว้างขวาง จนมียอดการเข้ามาตอบโต้ในหัวข้อนี้มากถึง 4 ล้านครั้งในทวิตเตอร์ โดยผลโหวตปรากฏว่าคนอังกฤษส่วนใหญ่นิยม “เก็บซอสมะเขือเทศในตู้เย็น” มากกว่า

 

  • ผลคะแนนกินขาด ฝั่งเก็บซอสมะเขือเทศในตู้เย็น มีมากกว่า!

โดยจากผลโพลจากการสำรวจของผู้บริโภคกว่า 13,000 คนพบว่า คะแนนทิ้งห่างกันมากพอสมควร ดังนี้

  • ผู้ที่เห็นว่าควรเก็บซอสมะเขือเทศในตู้เย็น มีมากถึง 63.2%
  • ผู้ที่เห็นว่าไม่ต้องเก็บใส่ตู้เย็น มีอยู่ประมาณ 36.8% 

ดราม่าเมืองผู้ดี! ‘ซอสมะเขือเทศ’ หลังเปิดใช้แล้วต้องใส่ตู้เย็นหรือไม่?

ทั้งนี้ มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์บางคน แสดงความไม่พอใจต่อซอสมะเขือเทศที่ใส่ตู้เย็นก่อนนำออกมารับประทาน โดยชี้ให้เห็นว่าขวดซอสมะเขือเทศตามร้านอาหารก็ถูกวางบนโต๊ะในร้านที่อุณหภูมิห้องปกติ เมื่อซื้อซอสมาใช้ที่บ้านจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บขวดซอสใส่ตู้เย็น

ขณะที่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์อีกบางส่วนก็ไม่เข้าใจถึงความจำเป็นในการโต้เถียงเรื่องนี้ โดยอ้างว่าเมื่อเปิดขวดซอสมะเขือเทศแล้ว มันก็ควรจะต้องเก็บใส่ตู้เย็นอยู่แล้วเป็นปกติ 

ดราม่าเมืองผู้ดี! ‘ซอสมะเขือเทศ’ หลังเปิดใช้แล้วต้องใส่ตู้เย็นหรือไม่?

 

  • ไฮนซ์ (สาขาสหรัฐ) เคยตอบเรื่องนี้มาแล้วเมื่อปี 2560

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การถกเถียงกันครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการถกเถียงหาคำตอบเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว หากย้อนกลับไปในปี 2560 ก็มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์บางคนเคยออกมาตั้งคำถามเดียวกันนี้โดยตรงกับบริษัท Heinz สาขาในสหรัฐอเมริกาผ่านทางโซเชียลมีเดีย

โดยในเวลานั้น ไฮนซ์ (สาขาสหรัฐ) ตอบว่า “เนื่องจากความเป็นกรดตามธรรมชาติ ซอสมะเขือเทศไฮนซ์จึงสามารถคงตัวอยู่ในอุณหภูมิห้อง แต่อย่างไรก็ตาม ควรแช่เย็นหลังจากเปิดแล้วเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์”

ทั้งนี้ สำหรับมูลค่าการตลาดของ "ซอสมะเขือเทศ" ในระดับโลกนั้น มีรายงานจากเว็บไซต์ข้อมูลสถิติอย่าง Statista พบว่า รายได้ในตลาดซอสมะเขือเทศมีมูลค่า 35,470 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 และคาดว่าตลาดจะเติบโตปีละ 5.73% (CAGR 2566-2571) และคาดว่าตลาดซอสมะเขือเทศจะขยายเพิ่มขึ้น 2.7% ในปี 2567

เมื่อเปรียบเทียบรายได้ที่ผู้ประกอบการธุรกิจซอสมะเขือเทศ ได้รับจากผู้บริโภคทั่วโลก พบว่า รายได้ส่วนใหญ่ได้มาจากลูกค้าในสหรัฐอเมริกา โดยล่าสุดในปี 2566 พบว่ารายได้ของซอสมะเขือเทศหลายๆ เจ้า ในท้องตลาดรวมกัน พบว่าสร้างรายได้อยู่ที่ประมาณ 5,925 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งภายในปี 2571 คาดว่าจะมีการผลิตและขายซอสมะเขือเทศในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น อยู่ที่ 16,160 ล้านกิโลกรัม 

ดราม่าเมืองผู้ดี! ‘ซอสมะเขือเทศ’ หลังเปิดใช้แล้วต้องใส่ตู้เย็นหรือไม่?
 

  • นอกจาก "ซอสมะเขือเทศ" ยังมีอีกหลายซอสที่ควรเก็บใส่ในตู้เย็น

ขณะเดียวกัน สำหรับในประเทศไทยเองก็เคยมีการหยิบยกเรื่องวิธีการเก็บรักษาซอสปรุงรสชนิดต่างๆ ในโลกออนไลน์เช่นกัน โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา มีข้อมูลจากนิตยสาร “แม่บ้าน” ได้ให้ความรู้เรื่องนี้ไว้ว่า เครื่องปรุงบรรจุขวดต่างๆ หลังจากเปิดใช้งานครั้งแรกแล้ว ซอสแต่ละชนิดจะมีวิธีการเก็บรักษาแตกต่างกันไป เพื่อให้คงคุณภาพไว้ได้นานๆ และไม่บูดไม่เสียก่อนเวลาอันควร โดยเครื่องปรุงแต่ละชนิดควรเก็บรักษา ดังนี้ 

-ซอสมะเขือเทศ/ซอสพริก-
ยังไม่เปิดขวด : เก็บได้ 1 ปี
หลังเปิดขวด : เก็บได้ 4-6 เดือน และควรเก็บในตู้เย็นหลังเปิดขวด

-เต้าเจี้ยว-
ยังไม่เปิดขวด : เก็บได้ 2 ปี
หลังเปิดขวด : เก็บได้ 3 เดือน และควรเก็บในตู้เย็นหลังเปิดขวด

-น้ำปลา-
ยังไม่เปิดขวด : เก็บได้ 2-3 ปี
หลังเปิดขวด : เก็บได้ 1 ปี และควรปิดฝาให้สนิทหลังจากใช้ เก็บที่อุณหภูมิห้องได้

-ซีอิ๊วขาว-
ยังไม่เปิดขวด : เก็บได้ 2 ปี
หลังเปิดขวด : เก็บได้ 3 เดือน และควรปิดฝาให้สนิทหลังจากใช้ เก็บที่อุณหภูมิห้องได้

-ซอสหอยนางรม-
ยังไม่เปิดขวด : เก็บได้ 2 ปี
หลังเปิดขวด : เก็บได้ 3-6 เดือน และควรเก็บในตู้เย็นหลังเปิดขวด

ดราม่าเมืองผู้ดี! ‘ซอสมะเขือเทศ’ หลังเปิดใช้แล้วต้องใส่ตู้เย็นหรือไม่?

 

  • เปิดประวัติ "ซอสมะเขือเทศ" ที่มีต้นกำเนิดจากเอเชีย

นอกจากนี้ เชื่อว่าผู้บริโภคหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า "ซอสมะเขือเทศ" แบบจิ้ม หรือที่เรียกว่า Ketchup นั้น จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีต้นกำเนิดในประเทศตะวันตก แต่มีที่มาจากเครื่องปรุงรสของชนชาติเอเชีย โดยมีการสันนิษฐานว่าคำว่า "Ketchup" อาจมีที่มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยนที่ว่า "คีเซียบ (kê-tsiap)" ซึ่งหมายถึง ซอสปรุงรสที่หมักจากปลา ผสมด้วยเครื่องเทศเอเชียและสมุนไพรเอเชีย จากนั้นได้แพร่หลายมายังทวีปยุโรปและอเมริกาโดยนักเดินเรือและนักสำรวจทางทะเล

ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 และต้นศตวรรษที่ 18 (ตามหลักฐานที่ตีพิมพ์ในปี 1732 ในหัวข้อ "Ketchup in Paste" โดย Richard Bradley) มีหลักฐานระบุว่า นักเดินเรือชาวอังกฤษคนหนึ่งน่าจะพบซอสหมักคีเซียบดังกล่าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้นำกลับบ้านเกิด จากนั้นเขาได้พยายามทำซ้ำซอสเลียนแบบขึ้นมา โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น เห็ด วอลนัท หอยนางรม หรือปลาแองโชวี แล้วก็มีการเรียกชื่อซอสเพี้ยนกันไปเรื่อยๆ จาก คีเซียบ จึงกลายเป็น Catchup และกลายเป็น Ketchup ในที่สุด แต่สูตรดังกล่าวก็ยังไม่มีมะเขือเทศเป็นส่วนผสมในซอส

ต่อมาในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่18 มีผู้คนในบางท้องถิ่นของอเมริกาเหนือ มีความเชื่อว่า การรับประทานมะเขือเทศสดๆ นั้นจะมีพิษและอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้นพ่อครัวชาวนิวอิงแลนด์ อเมริกา จึงทดลองนำมะเขือเทศที่หาได้ในท้องถิ่น มาผ่านกระบวนการหมักซอส จนได้ซอสปรุงรสที่มีรสชาติกลมกล่อม และทำให้ Tomato Ketchup กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน

ดราม่าเมืองผู้ดี! ‘ซอสมะเขือเทศ’ หลังเปิดใช้แล้วต้องใส่ตู้เย็นหรือไม่?

ทั้งนี้ คำว่า Tomato sauce ในทางสากลไม่ได้หมายถึง Ketchup แต่จะหมายถึง ซอสมะเขือเทศที่ทำหรือผัดขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับราดหน้า พาสต้า หรือ สปาเกตตี้ โดยมีความแตกต่างกันคือ Tomato sauce ทำมาจากมะเขือเทศสับละเอียดผัดกับน้ำมันมะกอก กระเทียม หัวหอมใหญ่ ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล สมุนไพร(Basil) และพริกไทย เพื่อใช้เป็นซอสสำหรับใส่ในหน้าพิซซ่า หรือใส่ในพาสต้า ส่วน Ketchup ทำมาจากมะเขือเทศบด ที่ผ่านกระบวนการผลิตโดยการหมักด้วยส่วนผสมที่เข้มข้น ประกอบไปด้วย น้ำส้มสายชู น้ำเชื่อมข้าวโพด ทำให้ได้รสชาติที่จัดจ้านและกลมกล่อม 

------------------------------------

อ้างอิง : CNN Businessนิตยสารแม่บ้าน, NationalGeographic, MediumHeinzUK