นักศึกษากังวล AI อาจทำให้ปริญญาของพวกเขาไม่มีความหมาย หางานยากขึ้น

นักศึกษากังวล AI อาจทำให้ปริญญาของพวกเขาไม่มีความหมาย หางานยากขึ้น

นักศึกษารุ่นใหม่กังวล AI อาจทำให้ปริญญาไม่มีความหมาย หรืออาจหางานทำยากกว่าเดิม ดูเหมือนพวกเขาไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า ที่สุดแล้ว..การใช้งานเอไอจะดีหรือไม่ดีกับการเรียนและการงานของพวกเขากันแน่?

KEY

POINTS

  • นักศึกษามหาวิทยาลัยไม่มั่นใจกับการใช้ AI ในการเรียน แม้ส่วนใหญ่ 85% มองว่า AI มีผลดีต่อการศึกษาแต่กลับใช้งานจริงค่อนข้างน้อย คือมีเพียง 24% ของนักศึกษาเท่านั้นที่ใช้งาน
  • บางคนมองว่า การใช้ AI มาช่วยเรื่องการเรียน เป็นวิธีเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงาน แต่บางคนก็กลัวว่า AI จะทำให้ปริญญาของพวกเขาไม่มีความหมาย
  • นายจ้างบางองค์กรชี้ว่า AI ช่วยให้บัณฑิตที่พวกเขารับเข้าทำงานมีประสิทธิผลมากขึ้น แต่นั่นก็อาจตีความได้อีกอย่างว่า พวกเขาต้องการแรงงานคนน้อยลง

แม้ว่านักศึกษาส่วนใหญ่ในมหาวิทยาลัยอาจยังคงมีความไม่มั่นใจกับการใช้ AI ในการเรียน แต่รายงานจาก Coursera Inc. แสดงให้เห็นว่ามีคณาจารย์จำนวนไม่น้อยเริ่มใช้งานและคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้แล้ว โดยจากการสำรวจของ Coursera ล่าสุด ที่ทำการสำรวจนักศึกษาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหราชอาณาจักรกว่า 1,500 ราย พบว่า นักการศึกษาส่วนใหญ่ 85% มองว่า AI ส่งผลดีต่อการศึกษาในระดับอุดมศึกษา แต่กลับใช้งานจริงน้อยมาก 

มีนักศึกษาเพียง 24% เท่านั้น ที่ใช้ AI มาช่วยเรื่องการเรียน

สำนักข่าว Bloomberg รายงานถึงผลสำรวจดังกล่าวอีกว่า เมื่อสอบถามลึกลงไปเกี่ยวกับการใช้งาน AI ในการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา ก็พบความย้อนแย้งบางอย่าง โดยผลการสำรวจพบว่า อาจารย์ผู้สอนอาจมีมุมมองที่ผิดเพี้ยนเกี่ยวกับปริมาณการใช้ AI ของผู้เรียน เหล่าคณาจารย์จากกลุ่มตัวอย่างคาดเดาว่า 40% ของนักศึกษามีการใช้ AI เพื่อช่วยภารกิจด้านการเรียนให้สำเร็จ (ทำการบ้าน เขียนรายงาน ช่วยทำการวิจัย ทบทวนข้อสอบ ฯลฯ)

แต่ข้อมูลจากนักศึกษากลุ่มตัวอย่างในผลสำรวจชุดเดียวกัน กลับชี้ว่า มีนักศึกษาเพียงประมาณ 24% เท่านั้นที่ใช้ AI มาช่วยในภารกิจด้านเรื่องการเรียน นอกจากนี้นักศึกษามากกว่า 1 ใน 5 บอกว่าพวกเขาไม่ได้ใช้ AI ในการเรียนเลย

ไม่เพียงเท่านั้น ผลสำรวจดังกล่าวยังพบข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับการใช้งานเอไอของนักศึกษาที่หลากหลายมาก สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกที่แตกต่างกันในหมู่นักศึกษาเกี่ยวกับคุณค่าของการใช้เอไอ โดยบางคนมองว่า การใช้เทคโนโลยีนี้มาช่วยเรื่องการเรียนเป็นวิธีการเตรียมความพร้อมสำหรับโลกของการทำงาน แต่บางคนก็กลัวว่า “เทคโนโลยี AI จะทำให้ปริญญาของพวกเขาไม่มีความหมาย” อาจหางานยากขึ้น

อาจารย์มหาวิทยาลัยใช้งาน AI มาช่วยงานด้านการสอนอย่างมาก

มาร์นี เบเกอร์ สไตน์ (Marni Baker Stein) หัวหน้าฝ่ายคอนเทนต์ของบริษัทการศึกษาออนไลน์ Coursera Inc. บอกกับสำนักข่าว Bloomberg ในลอนดอนเมื่อกลางเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า “เหล่าบรรดาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างมีความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับ Gen AI มากกว่าผู้เรียน ..ในแง่ที่ว่า มันส่งผลดีต่อการศึกษาระดับสูงโดยรวม อาจารย์ใช้ AI มาช่วยในงานสอนค่อนข้างเยอะมาก”

อาจารย์จำนวนไม่น้อยที่ใช้ Gen AI มาช่วยสอนในห้องเรียนออนไลน์ ใช้ในการช่วยออกข้อสอบ หรือช่วยในการคิดหัวข้อมอบหมายเรียงความ ฯลฯ การเชื่อมต่อกับผู้เรียนยังคงมีความสำคัญมาก แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องยากเมื่อมีผู้เรียนจำนวนมากในห้องเรียน จนอาจารย์อาจดูแลทุกคนได้ไม่ทั่วถึง การมีเครื่องมือ Gen AI จึงอาจช่วยครูในแง่นี้ได้ เบเกอร์ สไตน์ จึงคิดว่าครูหลายคนชื่นชมข้อดีในมุมนี้จริงๆ 

แม้ครูจะชื่นชอบการใช้เอไอมาช่วยในงานสอน แต่นั่นก็ทำให้เกิดช่องว่างด้านความไว้วางใจขึ้นระหว่างนักเรียนกับครู ครูไม่ไว้ใจนักเรียนหรือนักศึกษาเวลาทำวิจัยหรือทำรายงานมาส่ง หรือแม้แต่การสอบ พวกเขามักคิดว่ามันทำให้เกิดการโกง เช่น เด็กไม่ได้ทำรายงานส่งเอง แต่ใช้ AI มาทำแทน 

“เดาว่าคณาจารย์ส่วนใหญ่ใช้ Gen AI บ่อยมาก พวกเขาจึงสรุปว่านักศึกษาก็คงใช้มันอยู่ตลอดเวลา เช่น ใช้ AI ช่วยทำการวิจัย ทบทวนข้อสอบ การประเมินและทำความเข้าใจข้อมูลต่างๆ และใช้สำหรับงานเขียนรายงาน แต่นั่นอาจเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยของกิจกรรมที่นักศึกษาทำในฐานะผู้เรียน ในความเป็นจริง นักศึกษายังต้องอ่านหนังสือด้วยตัวเอง ไปเข้าคลาสเรียน และยังคงคุยถกเถียงเวลาทำรายงานกลุ่มกับเพื่อนๆ ของพวกเขาอีกด้วย” หัวหน้าฝ่ายคอนเทนต์ อธิบาย

นักศึกษาไม่แน่ใจว่า การใช้งาน AI จะส่งผลดีหรือไม่ดีต่อพวกเขา ทั้งต่อการเรียนและการงาน

อย่างไรก็ตาม หากโฟกัสเฉพาะในมุมของนักศึกษา ทีมวิจัยพบว่านักศึกษาดูเหมือนจะยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า AI เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดีสำหรับพวกเขา ในขณะที่พบข้อมูลจากทางนายจ้างบางองค์กรชี้ว่า AI ช่วยให้บัณฑิตที่พวกเขารับเข้าทำงานมีประสิทธิผลมากขึ้น (เห็นข้อดีของ AI และยอมรับการใช้งานเทคโนโลยีนี้) แต่นั่นก็อาจหมายความได้ว่า ในอนาคตนายจ้างต่างๆ อาจต้องการแรงงานคนน้อยลงด้วย

เนื่องจากปัจจุบันพบว่าบริษัทด้านไอทีหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เลย์ออฟพนักงานออกจำนวนมากแล้วใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทน ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้คนหนุ่มสาวมีความกังวลในเช่นกัน

พวกเขารับรู้ว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้ซ้ำๆ ในโลกการทำงานในอนาคต ... แม้พวกเขาจะยอมรับว่า AI มีความสำคัญต่อโลกการทำงาน แต่ในฐานะของเด็กมหาวิทยาลัยที่ยังเรียนอยู่ พวกเขาไม่แน่ใจอย่างยิ่งว่าอะไรกำลังรอพวกเขาอยู่เมื่อพวกเขาเรียนจบออกไป