ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’

ตามไปชมต้นแบบผ้าลายจุฬาพัสตร์ที่ถอดแบบมาจากผ้าห่อคัมภีร์โบราณ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

จะเรียกว่าหลงรูปก็น่าจะไม่ผิด เพราะแค่เห็นภาพผ้าลายอย่างสีสันสดใสในเฟซบุ๊กที่เพื่อนไปเที่ยวอยุธยา ถัดมาไม่กี่วัน เราก็ดั้นด้นไปจนถึงวัดย่านอ่างทอง ริมแม่น้ำน้อยทันใด

ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชน กลุ่มชุมชนวัดย่านอ่างทอง จำหน่าย ผ้าลายอย่าง และผลิตภัณฑ์ที่ตัดเย็บจากผ้าลายอย่าง เช่น เสื้อ กระเป๋า ย่าม และของที่ระลึก จะตั้งอยู่ในกลุ่มอาคารเรือนไทยใกล้กับกุฏิวังหลัง

จากที่เคยตั้งใจว่าจะมาชมผ้าลายอย่างแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อมาถึงกุฏิวังหลังได้พบกับคุณ สุพจน์ ตั้งไพศาล และพี่ๆ ในชุมชนวัดย่านอ่างทอง นอกจากเรื่องที่มาของผ้าลายอย่างแล้ว เจ้าบ้านยังใจดีนำชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงพระพุทธรูปและศิลปวัตถุในกุฏิวังหน้าอีกด้วย

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ กุฏิวังหลัง ภายในจัดแสดงผ้าห่อคัมภีร์โบราณ และผ้าลายอย่าง

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ ผ้าลายอย่างที่นำมาใช้ห่อคัมภีร์

ข้อสงสัยว่าทำไมจึงมีกุฎิวังหน้าและวังหลัง ขอเริ่มต้นที่ชื่อของวัดกันก่อน คุณสุพจน์เล่าเดิมวัดนี้มีชื่อว่า จุฬาโลก เพื่อให้คล้องจองกับวัดโมลีโลก เนื่องจากเจ้าอาวาสพระธรรมไตรโลก (น่วม) และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) เจ้าอาวาสวัดโมลีโลก หรือวัดท้ายตลาด ธนบุรี ทรงเป็นญาติธรรมและได้เกื้อหนุนกัน

เมื่อครั้งจะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดจุฬาโลก สมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ (ขุน) ได้ช่วยกราบบังคมทูลให้พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้านายวังหน้าทรงทราบ

จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณในการส่งช่างหลวงจากวังหน้ามาช่วยก่อสร้างพระอุโบสถ พระวิหาร เจดีย์ และกำแพงแก้ว

รวมทั้งยังได้รื้อตำหนักเจ้านายวังหน้ามาสร้างเป็นกุฏิสงฆ์ จึงเป็นที่มาของคำเรียกขานว่า กุฏิวังหน้า และกุฏิวังหลัง

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ ผ้าลายอย่างที่จัดแสดงในกุฏิวังหน้า

ปัจจุบันกุฏิวังหน้า จัดเป็นสถานที่จัดแสดงผ้าห่อพระคัมภีร์และผ้าลายอย่าง ส่วนกุฏิวังหลัง เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงพระพุทธรูป โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุสำคัญของวัด

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ ผ้าลายจุฬาพัสตร์

สำหรับผ้าลายจุฬาพัสตร์ เป็นผ้าลายอย่างที่ สถาบันอยุธยาศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ได้เข้ามาดำเนินการออกแบบสร้างสรรค์

โดยนำลวดลายของผ้าลายอย่างที่ใช้ห่อคัมภีร์โบราณสมบัติของวัดย่านอ่างทองมาศึกษา แล้วคัดเลือกลายจากผ้าห่อคัมภีร์โบราณมาจัดวางองค์ประกอบใหม่ แล้วนำไปพิมพ์ลงบนผ้าใยสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติในการรองรับสีได้ดี ด้วยเทคนิคการพิมพ์แบบดิจิทัล

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’

ผ้านุ่งลายจุฬาพัสตร์ และเสื้อยืดที่ระลึก

ส่วนคำว่า จุฬาพัสตร์ มาจากคำว่า จุฬาโลก อันเป็นชื่อเดิมของวัด มาผนวกกับคำว่า พัสตรา ซึ่งหมายถึงผ้า นำมาใช้เป็นชื่อลายผ้า

โดยทางสถาบันอยุธยาศึกษาได้ส่งเสริมให้ชุมชมได้นำองค์ความรู้ในการทำผ้าลายจุฬาพัสตร์ไปต่อยอดในการผลิตเป็นสินค้า จนเกิดเป็น วิสาหกิจชุมชน กลุ่มชุมชนวัดย่านอ่างทอง ที่มีผ้าลายอย่าง ‘จุฬาพัสตร์’ และผลิตภัณฑ์จากผ้าลายอย่าง เช่น กระเป๋าผ้า ย่าม ผ้าคลุมไหล่ กระเป๋าสตางค์ และผ้าเช็ดหน้า ที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างรายได้ให้กับชุมชนวัดย่านอ่างทองได้อย่างยั่งยืน

  ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ สินค้าภายในร้าน

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ กระเป๋าผ้าลายจุฬาพัสตร์

พระพุทธรูปขังกรง เป็นอีกหนึ่งตำนานที่อยู่คู่กับวัดย่านอ่างทอง แต่ก่อนจะเล่าถึงสาเหตุที่พระพุทธรูปถูกขังอยู่ในกรง คุณสุพจน์ได้เล่าถึงที่มาของชื่อวัดย่านอ่างทอง ที่ไม่เกี่ยวกับจังหวัดอ่างทองให้ฟังว่า

เล่ากับสืบมาว่ามีชาวมอญพายเรือขายโอ่ง อ่างดินเผามาพักจอดเรืออยู่ที่คุ้งน้ำหน้าวัด จู่ ๆมองเห็นอ่างทองคำขนาดใหญ่ลอยน้ำมาจึงรีบพายเรือหมายว่าจะเข้าไปเก็บ ปรากฏว่าอ่างทองคำจมลงใต้น้ำต่อหน้าต่อตา จึงเป็นที่มาของชื่อวัดย่านอ่างทอง 

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’

พระพุทธรูปที่เก็บรักษาไว้ในกรง

ส่วนตำนานพระพุทธรูปถูกขังไว้ในกรง เกิดจากมีกลุ่มโจรมาขโมยพระพุทธรูปที่วัดอยู่หลายครั้ง มีครั้งหนึ่งโจรจับพระลูกวัดมัดรวมกันก่อนหลบหนีไปได้ แต่ผู้ร้ายขนพระพุทธรูปไม่ไหวจึงนำไปทิ้งไว้กลางทุ่งนา เมื่อชาวบ้านพบเข้าจึงนำกลับมาคืนไว้ที่วัดตามเดิม

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ พระพุทธรูปภายในกุฎิวังหน้า

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ ศิลปะวัตถุที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์

เพื่อป้องกันพระพุทธรูปโบราณและศิลปวัตถุมีค่าให้ปลอดภัย ชาวบ้านจึงรวมใจกันสร้างลูกกรงเหล็กครอบพระพุทธรูปเอาไว้ จึงกลายเป็นที่มาของพระพุทธรูปขังกรงมาจนถึงวันนี้

นอกจากผ้าลายอย่างและพระพุทธรูปขังกรงแล้ว พระอุโบสถ และพระวิหารของวัดย่านอ่างทอง ล้วนมีความงดงามและคุณค่าทางสถาปัตยกรรมอย่างยิ่ง 

นับเป็นอีกหนึ่งวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีผลงานสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และศิลปวัตถุ รวมทั้งผ้าลายอย่างที่สร้างสรรค์จากลายผ้าห่อคัมภีร์โบราณที่นำมาผลิตเป็นสินค้าชุมชนที่มีเอกลักษณ์ 

มีอรรถรสครบครันทีเดียว 

 

ตามรอย ‘ผ้าลายอย่าง’ และพระพุทธรูปขังกรงที่วัดย่านอ่างทอง ‘อยุธยา’ ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชน กลุ่มชุมชนวัดย่านอ่างทอง