‘ลำไยศีลห้า’ จากฟาร์มสู่เชฟเทเบิ้ลกลางสวนผักฮักร้องขุ้ม ‘เชียงใหม่’
‘ลำไยศีลห้า’ คือ ลำไยอินทรีย์เนื้อแน่น หวานละมุน ผลผลิตจากเกษตรกรวิถีอินทรีย์ใน 5 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ที่ยืนยันด้วยความจริงใจไม่มุสาว่าปลอดภัยจากสารเคมีทุกขั้นตอน
เข้าพรรษาปีนี้เป็นช่วงเวลาที่ ‘ลำไยศีลห้า’ ผลิดอกออกผลพร้อมจัดจำหน่ายให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับความหวานอย่างมีคุณค่าใน เทศกาลหวานดี (Longan-givity Festival) จัดขึ้นที่ริมปิงซูเปอร์มาร์เก็ต และสวนผักฮักร้องขุ้ม ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
‘ลำไยศีลห้า’ มาจากแนวคิดคนปลูกกับคนขาย ต้องมีสัจจะจริงใจต่อผู้บริโภค ไม่ใช่แค่เพียงไม่ใช้สารเคมีตลอดกระบวนการผลิต ยังต้องปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยจากการปนเปื้อนของสารเคมีด้วย โดยมี ศ.ดร.พวงรัตน์ แก้วล้อม อาจารย์ประจำภาควิชาสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นผู้เข้ามาปลุกปั้นเกษตรกรจากวิถีเคมีสู่วิถีอินทรีย์ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
“ลำไยอินทรีย์ เริ่มต้นจากเกษตรกร 23 ราย จนตอนนี้ขยายเป็น 38 ราย กระจายอยู่ในเขต อ.สันป่าตอง อ.แม่วาง อ.สารภี อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และ อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้จะมากกว่านี้ เพราะแปลงต้นแบบที่ได้รับการส่งเสริมให้เข้าสู่วิถีอินทรีย์ได้พิสูจน์ให้เกษตรกรเห็นว่า สามารถทำให้พื้นที่ของตนเองมีระบบนิเวศที่ดีขึ้น อุดมสมบูรณ์มากขึ้น
สามารถผลิตลำไยที่มีคุณภาพ มีขนาดผลผลิตใหญ่กว่าลำไยทั่วไป เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ และมีเทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ ที่นำมาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กับบริษัทลิฟวิ่งซอยล์ จำกัด มาส่งเสริม” ศ.ดร.พวงรัตน์ ในฐานะผู้จัดการโครงการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างต้นแบบนิเวศเกษตรและชุมชนแห่งการเรียนรู้ระบบอาหารที่ยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพอย่างสมดุล บอกกับเรา
นอกจากทำงานกับเกษตรกรและชุมชนแล้ว อาจารย์พวงรัตน์ยังได้เชิญเชฟชื่อดังจากร้านอาหารและโรงแรมในเชียงใหม่มาร่วมกันสร้างสรรค์เมนูอาหารที่ปรุงจากลำไยศีลห้า นำเสนอในรูปแบบเชฟเทเบิ้ลที่จัดเสิร์ฟกันท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่งสะท้อนความจริงใจของคนปลูก คนปรุง รวมถึงคนชิมที่ตั้งตารอด้วยความจริงจังและจริงใจ
เริ่มต้นกันที่ Welcome Drink เครื่องดื่มรสสดชื่นที่นำลำไยสดกับมะนาวมาตกแต่งได้อย่างเก๋ไก๋ตามสไตล์ของรายา เฮอริเทจ ตามด้วย Artisan Cheese Plate จาก Dofann Cheese โดย เชฟดิน นำลำไยไปทำเป็นชัทนีย์ (Longan Chutney) เครื่องจิ้มสไตล์อินเดีย ลักษณะคล้ายแยมแต่มีส่วนผสมของสมุนไพรและเครื่องเทศใส่เข้าไปด้วย ทำให้มีรสออกหวาน เปรี้ยว และเผ็ดเล็กๆ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อมาจับคู่รับประทานกับชีสนมวัวและนมแพะ 8 ชนิดแล้ว จะให้รสชาติที่น่าติดตามไม่น้อยเลย
เมนูต่อมาเป็น Garden Salad เสิร์ฟมาเป็นชามขนาดใหญ่ เมนูนี้ เชฟอ้น ปฐพี มูลก้อนแก้ว จากร้านอาหารฝรั่งเศส เลเลฟอง (L'éléphant) ลงสวนไปตัดผักสดจากในสวนผักฮักร้องขุ้มมาปรุงเป็นสลัดที่มีทั้งผักสด ฟักทอง แครอท และบีรูท (สามชนิดหลังนำไปอบให้สุกพร้อมลำไยเล็กน้อยเพื่อให้มีกลิ่นหอมของลำไย) ผลลำไยสด ลำไยที่นำไปดองกับน้ำปลาจากพังงา และลำไยกงฟี (ลำไยตุ๋นกับน้ำมัน)
ราดด้วยน้ำสลัดที่ปรุงมาจากน้ำลำไย แอปเปิลไซเดอร์ น้ำมันมะกอก และดีจองมัสตาร์ด เติมพริกสดลงไปเล็กน้อยให้มีความรู้สึกเผ็ดเป็นการตัดรส เป็นสลัดชามโตที่มีรสชาติของลำไยที่หลากหลายทั้งหวาน เค็ม เปรี้ยว และเผ็ดน้อยๆ ที่มากไปด้วยความอร่อย
มาถึงอาหารจานหลักผลงานของ เชฟกีโยม จากโรงแรมแชงกรีล่า เชียงใหม่ มีชื่อยาวมาก คือ Slow Poached Blue River Prawn / Flambed Head Reduction / Longan Kimchi Tartlet / Organic Longan-Citrus Chutney / Longan Chili Dust กุ้งแม่น้ำสุดสร้างสรรค์ที่มีลำไยเป็นส่วนผสมของทุกองค์ประกอบ
ไม่ว่าจะเป็นลำไยชัทนีย์ที่รองอยู่ใต้ตัวกุ้งแม่น้ำ ผงลำไยผสมพริกที่โรยอยู่บนตัวกุ้งที่เคลือบด้วยครีมซอส รวมไปถึงกิมจิลำไยที่เสิร์ฟมาให้รับประทานคู่กัน มีทั้งรสหวาน เปรี้ยว และเคี้ยวสนุกด้วยข้าวเกรียบรูปกุ้งที่ตกแต่งมาได้อย่างน่ารัก
ปิดท้ายด้วย Sticky Longan Pudding พุดดิ้งลำไยร้อนๆมาคู่กับไอศกรีมมะพร้าวเย็นๆเป็นของหวานสไตล์หยินหยาง ฝีมือ เชฟบิลลี่ - สุขสันต์ ชุตินธราทิพย์ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ ที่สายหวานชิมแล้วต้องถูกใจ
เพราะเนื้อพุดดิ้งมีความหนึบความหวานของเนื้อลำไยอบไหน แถมยิ่งได้กินคู่กับลำไยสดๆหวานๆ ผสานความเย็นของไอศกรีมมะพร้าวเข้าไปอีก เป็นเมนูส่งท้ายของเชฟเทเบิ้ลลำไยศีลห้าที่สวยงามและสมบูรณ์แบบมากในมุมมองของเรา
ท้ายนี้ใครสนใจเรื่องรางของ ‘ลำไยศีลห้า’ สามารถสอบถามไปทางเฟซบุ๊ก สวนผักฮักร้องขุ้ม ส่วนใครที่อยากชิมพุดดิ้งลำไยไปหาเชฟบิลลี่ได้ที่โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่
ลำไยอินทรีย์ หวานดีมีคุณค่า คนขายสุขภาพดี คนกินปลอดภัย
