คนกรุง ตะลุยลดฝุ่น เพิ่มสุขภาวะคนเมือง (หลวง) ก่อนเคานต์ดาวน์ PM2.5 ปีนี้
ใกล้เข้าช่วงเทศกาลแห่งความสุข แต่ฝุ่น PM2.5 ก็กำลังมาด้วย เพื่อสร้างความตระหนักรู้ จึงเดินหน้า โครงการสานพลังขับเคลื่อนเคานต์ดาวน์ PM2.5 เพิ่มสุขภาวะคนเมือง (หลวง) จัดการและลดปัญหาฝุ่นจากแหล่งกำเนิด เพื่อรักษาสุขภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างอากาศสะอาดอย่างยั่งยืน
ฝุ่น กำลังมาแล้ว! ใกล้เวลาชาวกรุงฯ เผชิญวงจรเทศกาลรับฝุ่น PM2.5 กันอีกรอบประจำปีนี้ แต่ก่อนจะรอให้ฝุ่นเต็มเมือง เพื่อเร่งเพิ่มมาตรการป้องกันฝุ่น สร้างอากาศสะอาดทุกลม ภาคีจึงเดินหน้าโครงการสานพลังขับเคลื่อนเคานต์ดาวน์ PM2.5 เพิ่มสุขภาวะคนเมือง (หลวง) นำโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) มูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย และภาคีเครือข่าย จัดประชุมสรุปการดำเนินงานโครงการสานพลังขับเคลื่อนเคานต์ดาวน์ PM2.5 เพิ่มสุขภาวะคนเมือง (หลวง) และพิธีส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง (EV Conversion) ต้นแบบให้กับกรุงเทพมหานคร
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ข้อมูลผู้ป่วยด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศ ล่าสุด เดือนตุลาคม 2567 ของระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ หรือ Health Data Center (HDC) พบว่า ปี 2567 ทั้งประเทศมีผู้ป่วยด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศกว่า 9.4 ล้านคน และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่หลากหลาย โดยเฉพาะกับเด็ก ผู้ป่วย และผู้สูงอายุ ที่มีระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ดังนั้น การสร้างความตระหนักรู้และสนับสนุนการดำเนินงานในด้านการจัดการและลดปัญหาฝุ่น PM2.5 จากแหล่งกำเนิด จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาสุขภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างอากาศสะอาดได้อย่างยั่งยืน
"สสส. ร่วมสนับสนุน โครงการสานพลังขับเคลื่อนเคานต์ดาวน์ PM2.5 ตั้งแต่ปี 2566 มีหลักการดำเนินงาน 1.) พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EV Conversion ที่สามารถช่วยลดปัญหาฝุ่นควันจากภาคการจราจรได้ พร้อมสร้างชุดความรู้และคู่มือการดัดแปลงไปใช้ขยายผลในอนาคต 2.) พัฒนาเครื่องยนต์ต้นกำลังพลังชีวมวล เพื่อลดการเผาในที่โล่ง 3.) พัฒนาแพลตฟอร์ม Open Data รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM.5 ของกทม. 4.) ออกแบบแผนผังการปลูกต้นไม้ ตามนโยบายการปลูกต้นไม้ล้านต้นของกทม. 5.) สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย 6.) ส่งเสริมการเดินทางลดฝุ่น 7.) จัดประกวดผลงานของนิสิตนักศึกษา YouTHful Issue และ 8.) จัดตั้งสภาลมหายใจกรุงเทพมหานคร เพื่อสะท้อนการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จากปัญหาเล็กๆ ขยายไปสู่สังคม หรือที่เรียกว่า Snowball effect สามารถนำไปใช้ขยายผลในอนาคตได้" นพ. พงศ์เทพ กล่าว
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า แหล่งที่มาของฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มาจากภาคการจราจรขนส่งทางบกเป็นหลัก รองลงมาคือ การเผาในที่โล่ง กทม. มีแผนลดฝุ่น 365 วัน รวมทั้งแผนบริหารจัดการฝุ่นระยะวิกฤติ ซึ่งในปีนี้ได้เพิ่มมาตรการเข้มข้นขึ้น โดยค่าฝุ่นระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 37.6-75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มีแผนจัดการ 1.) จัดตั้ง War Room แจ้งเตือนประชาชน 2.) พัฒนาแอปพลิเคชัน AirBKK ที่ปรับปรุงให้มีความละเอียดขึ้น พยากรณ์ล่วงหน้าได้แม่นยำขึ้น 3.) เพิ่มความถี่ในการตรวจต้นตอฝุ่นในภาคประชาชน 4.) ควบคุมรถมลพิษสูงเข้าพื้นที่ หรือ Low Emission Zone 5.) เพิ่มมาตรการห้องเรียนสู้ฝุ่นครบ 437 โรงเรียน แจกหน้ากากอนามัยเชิงรุก และ 6.) จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 50 เขต และเปิดคลินิกมลพิษทางอากาศ 8 แห่ง
"ค่าฝุ่น ระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ตั้งแต่ 75.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จำนวน 5 เขตขึ้นไป จะมีการออกประกาศเรื่องห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่กรุงเทพชั้นใน (วงแหวนรัชดาภิเษก) โดยจะประกาศล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และระยะเวลาการห้าม 3 วัน มีผลใช้บังคับนับตั้งแต่วันถัดไปของประกาศ มี LINE Alert เตือน ประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ แจ้งให้หยุดการก่อสร้างในบางพื้นที่ สนับสนุนให้คนมาใช้ BTS/MRT แทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว อีกทั้งยังมีเครือข่าย Work from Home ที่มีบริษัทร่วมด้วย 100 บริษัท รวม 40,000 คน
ซึ่ง โครงการสานพลังขับเคลื่อนเคานต์ดาวน์ PM25 เพิ่มสุขภาวะคนเมือง (หลวง) เป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองของ กทม. โดยเฉพาะนวัตกรรมดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า EV Conversion การลดการเผาในที่โล่ง การเดินทางลดฝุ่น และสภาลมหายใจกรุงเทพฯ จะเข้ามาแก้ปัญหาได้ตรงจุดและคาดว่าจะทำให้ฝุ่นลดลงได้ในระดับหนึ่ง" ชัชชาติ กล่าว