จับสาววัยใสแก๊งแฮกเฟซ-ไลน์ หลอกตุ๋นเงินเหยื่อ4ล้าน
ตำรวจกองปราบ รวบสาววัยใสแกงแฮกเฟซ-ไลน์ หลอกตุ๋นเงินเหยื่อ สูญกว่า 4 ล้านบาท เตือนประชาชนให้ระมัดระวัง การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโซเชียล
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. 2562 ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ต.เอกรณการ นาคนิยม สว.กก.1 บก.ป. แถลงผลการจับกุม น.ส.นฤมล อายุ 19 ปี และนายสามารถ อายุ 48 ปี สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 282-283/2562 ลงวันที่ พฤษภาคม 2562 ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น” โดยเจ้าหน้าที่ฯ สามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าอาคาร พาราไดซ์ แมนชั่น แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.
พ.ต.ต.เอกรณการ กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจกองปราบได้รับร้องเรียนจากประชาชนกว่าหลักร้อยรายว่า มีคนร้ายหลอกยืมเงินผู้เสียหายผ่านทางไลน์และเฟซบุ๊ก โดยแฮกเข้าบัญชีของเหยื่อเพื่อล่อลวงเพื่อนร่วมเฟซบุ๊กหรือไลน์ที่รู้จักกับเจ้าของจนหลงเชื่อ และโอนเงินตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น รวมค่าความเสียหายสูงถึง 4 ล้านบาท จึงติดตามสืบสวนจนทราบว่า น.ส.นฤมล เป็นตัวการทำหน้าที่หาบัญชีโซเชียลของเหยื่อ และจัดการบัญชีโอนเงิน และมีนายสามารถ ทำหน้าที่กดเงินมามอบให้ผู้เสียหาย
พ.ต.ต.เอกรณการ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ตำรวจ กก.1 สามารถจับกุมสองผู้ต้องหาได้บริเวณหน้าแมนชั่นแห่งหนึ่ง ในเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ โดย น.ส.นฤมล รับว่า ตนได้กระทำผิดจริง โดยจะซื้อบัญชีธนาคารผ่านเฟซบุ๊กเล่มละ 1,000-4,000 บาท มาใช้ก่อเหตุ และไล่หาข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ผู้เสียหาย จากนั้นจะจ้างนายสามารถ ครั้งละ 1,000-2,000 บาท ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพียงแต่อยู่ละแวกเดียวกัน ไปกดเงินมาให้ โดยพวกตนได้ลองทำผิดทำถูกมาประมาณ 2-3 ปี
เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพจึงนำตัวส่ง สน.บุคคโล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ธงชัย กล่าวว่า อยากจะฝากเตือนไปยังประชาชน ให้ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนช่องทางโซเชียลต่างๆ หากมีเพื่อนทักมาขอยืมเงิน ก็ให้ตรวจสอบตัวบุคคลดังกล่าวว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ และสำหรับผู้ที่ขายบัญชีธนาคาร หากตรวจสอบและพบว่ามีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดด้วยแล้ว ก็จะมีความผิดตามกฎหมายอย่างร้ายแรงด้วยเช่นกัน