ศึก 'ประชาธิปัตย์' ลามรอยร้าวรัฐบาล

 

 

ความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่พูดคุยกันในกลุ่มไลน์อดีตส.ส.พรรค เรียกร้องให้แกนนำพรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ไม่ปรับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ หลังจากกรณีทีมงานปรากฎฝ่ายเกี่ยวข้องกับผู้โพสต์คลิปกักตุนหน้ากากอนามัยเพื่อส่งขาย 

ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยตอบคำถามก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เช้าวานนี้(10มี.ค.) ว่า “ก็ถอนไปสิ ยังไม่ถอน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ปชป. เสนอให้เปิดประชุมพรรค ทบทวนมติพรรคที่โหวตไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของเขา ให้ไปถามพรรคปชป. ส่วนกระแสข่าวปรับร.อ.ธรรมนัสพ้นเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น เมื่อวันที่ 9 มี.ค. เขาไปตรวจสอบโรงงานหน้ากากแล้ว ไม่พบสิ่งผิดปกติ และมีคนที่ถูกกล่าวอ้างมาสารภาพ ทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการ เดี๋ยวก็สอบสวนต่อ สื่อต้องเข้าใจกระบวนการ

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังการประชุมครม.อีกครั้งว่า ตนพูดเร็วไปนิด สื่อถามเร็วตนก็ตอบเร็ว ก็ต้องขอโทษด้วย ความจริงแล้วคำตอบของตนก็คือทั้งหมดเป็นเรื่องของมติพรรค เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคและพรรคปชป. เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องเป็นมติของพรรค

ดังนั้นการที่ใครออกมาพูดจาอะไร ตนคงไม่ขอไปตอบโต้ และในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ให้เสรีและสิทธิของหัวหน้าพรรคไปบริหารจัดการให้เรียบร้อยของหัวหน้าพรรคไปบริหารจัดการให้เรียบร้อย ซึ่งตนได้คุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคปชป. แล้ว ซึ่งได้รับไปพิจารณาดำเนินการตามมติของพรรค ถือเป็นกลไกทางการเมือง ตนคงไม่เกี่ยวไม่เกี่ยวข้องอะไร

“จุรินทร์”ยกมติ61ต่อ16ร่วมรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในการทำงานร่วมกันต้องมีการปรึกษาหารือและระมัดระวัง อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่พูด เพื่อไม่ให้เกิดกระทบกระทั่งกัน เราไม่ใช่รัฐอิสระ อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่เรา แต่เป็นหน้าที่คนอื่น ไม่จำเป็นเราก็ไม่ไปก้าวล่วง เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

“พรรคปชป.ยึดถือวิถีทางประชาธิปไตยภายในพรรค ในช่วงที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ก็ไม่ใช่ความคิดเห็นของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นมติร่วมกันของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องโหวตกันได้ 61ต่อ 16 จึงเข้าร่วมรัฐบาล ส่วนกรณี ร.อ.ธรรมนัส ต้องให้นายกฯพิจารณา”

“นิพนธ์”วอนเคารพมติพรรคร่วม

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย แกนนำพรรคปชป. กล่าวว่า ปชป.มาร่วมรัฐบาลเรามาตามมติพรรค เพราะฉะนั้นการมาบอกว่าพายเรือให้โจรนั่งนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ความจริงมีหนังสือให้ทบทวนมติเมื่อคืนวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา และวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ประเด็นนี้ตนคิดว่าใน ปชป.ต้องพูดคุยกัน

“ที่บอกว่ามาพายเรือให้โจรนั่งนั้นต้องทบทวนคำพูดให้ดี พูดแล้วมันบั่นทอนกำลังใจคนทำงานเหมือนกัน คิดว่าถ้ามีปัญหาอะไร ปชป.ควรมานั่งพูดคุยกันในพรรค มากกว่าจะพูดตามสื่อข้างนอก และประดิษฐ์ถ้อยคำตำหนิคนอื่น เพราะคนที่ทำงานเขาก็เสียกำลังใจเหมือนกัน”

หวั่นป้องรัฐบาลกระทบเลือกตั้งครั้งหน้า

นายอันวา สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคปชป. กล่าวว่า เมื่อพรรคไม่ได้นัดประชุมตามที่รับปากว่า จะเปิดเวทีรับฟังสมาชิกพรรคในเรื่องต่างๆ จึงมีความจำเป็นต้องยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 ส่งถึงหัวหน้าพรรคและกก.บห.พรรค เพื่อขอให้ทบทวนมติ 24ต่อ17เสียง กรณียกมือโหวตไว้วางใจการทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส และกรณีการกักตุนหน้ากากอนามัย

“เมื่อเราอาสามาทำงานการเมืองรับปากประชาชนว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหา และรักษาผลประโยชน์ เขาเลือกเราเข้ามา แต่เรากลับทำในสิ่งที่ฝืนความรู้สึกของประชาชน ถามว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า เขาจะยังไว้วางใจให้เราหรือไม่ เพราะเขาดูคำพูด ดูพฤติกรรม ดูผลงานขณะที่เราทำหน้าที่ว่า พูดจริง ทำจริงหรือไม่”

ขู่ปรับครม.“ธรรมนัส”ยังอยู่ทบทวนร่วมรบ.

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคปชป. กล่าวว่า ขณะนี้ควรรอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตัดสินใจก่อน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีการปรับครม.แล้ว ร.อ.ธรรมนัส ยังอยู่ ตนก็จะเป็นอีกผู้หนึ่งที่พร้อมสนับสนุนให้พรรคนำเรื่องการทบทวนการร่วมรัฐบาลมาหารือเช่นกัน

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคปชป. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “เมื่อนับถือโจรเป็นกัลยาณมิตร หากโจรจะขโมยหน้ากากอนามัยไปขาย ก็ธรรมดานี่ครับ ไม่เห็นแปลก สันดานโจรไง”

“ธรรมนัส”ชี้โดนการเมืองเล่นงาน

ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัย มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน นายพิตตินันท์ รักเอียด เบื้องต้นตนได้ปลดออกจากคณะทำงานไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา

“สำหรับความคืบหน้าขณะนี้ ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลแล้ว เดี๋ยวก็จะรู้ว่าใบออเดอร์สินค้ามีจริงหรือไม่ และอยู่กับใคร รอติดตามพิสูจน์ความจริงตรงนี้ดีกว่า ตอนนี้ผมก็รู้แล้ว ภายในสัปดาห์นี้ก็กระจ่าง เริ่มรู้แล้วว่ามีการตัดต่อภาพ สื่อก็รู้ บอกได้เลยว่ามีการตัดต่อ และรู้เยอะกว่านี้ แต่พูดไม่ได้ ผมเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวมาจากเรื่องการเมือง”

ไม่ก้าวล่วงปชป.กดดันลาออก

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กดดันอะไรหรือไม่นั้น ภายในพรรคนั้นคุยกันได้ ตนไม่ติดใจอะไร เป็นเรื่องภายในครอบครัวพปชร. ก็ต้องคุยกัน ส่วนกรณีสมาชิกพรรคปชป. เรียกร้องให้ปรับครม.นั้น เป็นเรื่องของปชป. ตนไม่ก้าวล่วง

สำหรับกระแสการปรับครม. ไม่ได้ออกมาจากปากตน ตนยังมาทำงานตามปกติ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

ไลน์พปชร.เดือดโต้กดดัน“ธรรมนัส”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพปชร. ว่า จากกรณีปัญหาที่ ร.อ.ธรรมนัส ออกมาแถลงข่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ผู้ติดตามที่ถูกแฉว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น จนล่าสุด นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้ขอให้ ร.อ.ธรรมนัส ลาออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรฯ เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้น

ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มไลน์ของพรรคที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ โดยนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นส.ส.ในกลุ่มที่สนับสนุนร.อ.ธรรมนัส ได้ส่งลิงค์ข่าวของนายสิระที่กดดันร.อ.ธรรมนัส ให้ออกจากตำแหน่ง พร้อมส่งข้อความว่า “ผมไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงมั้ย แต่ถ้าจริง การเหยียบกันแบบนี้ มันจะดีเหรอครับ” ทำให้นายสิระ เข้ามาโต้ตอบทันทีว่า “จริงครับ ไม่ได้เหยียบครับ”

จากนั้น นายไผ่ จึงตอบกลับว่า “แล้วไม่คุยกันเองละครับ เวลาเอาหน้ากากปลอม ไม่ลาออกด้วยละครับ” นายสิระ ตอบกลับว่า “เสียสละเงินผม เวลาเอาคนอื่นลงแข่ง ส.ส.กำแพงเพชร ทำไมไม่ลาออก ไม่ช่วยลูกพี่ไวพจน์ น่าจะลาออกมากกว่ามั้ยครับ”

จากนั้น นายไผ่ ตอบกลับทันทีว่า “จะพูด ผมขอหลักฐานหน่อย” นายสิระ จึงยอกย้อนว่า “ใช่พี่ไผ่เหรอ ผมได้ข่าวมา ไม่คิดว่าเป็นพี่นะ” นายไผ่ จึงตอบว่า “ก็เอาว่าผมช่วยมาก่อนแล้วค่อยพูดมั้ย อย่าพูดลอยๆ ถ้าลูกน้องผมไปช่วย เพราะพรรคไม่เอาแสดงว่าผมไปช่วย มันใช่เหรอ”