‘ไทยภักดี’แถลง 14 ข้อค้านแก้รธน.-ตั้งส.ส.ร.
'หมอวรงค์' ทำทีม‘ไทยภักดี’แถลงการณ์ 14 ข้อค้านแก้รธน.-ตั้งสสร. ซัดบางพรรคแอบหลังม็อบมุ่งล้มล้างสถาบัน
กลุ่มไทยภักดี ที่นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ออกแถลงการณ์ เรื่องคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อร่างใหม่โดยตั้ง ส.ส.ร. มีเนื้อหาดังนี้...
ตามที่มีพรรคการเมือง นักการเมือง มีแนวคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การตั้งส.ส.ร. และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
กลุ่มไทยภักดีได้ติดตาม และมีข้อสังเกตที่อยากเรียนให้ ประชาชนซึ่งเป็นผู้สถาปนา รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นี้ 16.8 ล้านเสียงได้ทราบนั่นคือ
พรรคการเมืองและนักการเมือง มองว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหา คือบทเฉพาะกาลในมาตรา 272 ที่ให้อำนาจสว.เลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรก
ในทางปฏิบัติ มาตรานี้ผ่านประชามติและเป็นบทเฉพาะกาล อีกประมาณ 3 ปีก็จะสิ้นสุด หากคนกลุ่มนี้มองว่ามาตรานี้มีปัญหา ทำไมไม่เสนอแก้มาตรานี้มาตราเดียวแต่กลายเป็นว่า นำมาอ้างเพื่อต้องการล้มล้างรัฐธรรมนูญนี้ทั้งฉบับ ซึ่งกลุ่มไทยภักดี ขอเชิญชวนประชาชน ที่เป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่วมกันปกป้อง คัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วยเหตุผล
1.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผ่านการลงประชามติเสียงข้างมากของประชาชน 16.8 ล้านเสียง ซึ่งถือว่าเป็นการใช้อำนาจอธิปไตย โดยตรงของประชาชน และถือว่าเป็นอำนาจสูงสุด ที่นักการเมืองต้องเคารพ
2.ถ้ายอมให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะนำไปสู่การต้องร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีก 10 ฉบับ เท่ากับว่าจะต้องร่างกฎหมายใหม่ทั้งสิ้น 11 ฉบับ ทำให้ง่ายแก่การซุกประโยชน์ของนักการเมือง
3.มีพรรคการเมืองบางพรรค อาศัยการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อร่างใหม่ ในครั้งนี้นำไปสู่การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และแบ่งแยกประเทศ โดยอาศัยม็อบมาร่วมกดดัน
4.จุดเด่นของรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ การปราบโกง โดยเฉพาะคดีอาญาไม่หมดอายุความ และการพิจารณาคดีลับหลังหากจำเลยหนี ซึ่งอยู่ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ มีคดีทุจริตถูกตัดสิทธิ์สมัครส.ส.ตลอดชีวิต ซึ่งนักการเมืองไม่ชอบ
5.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ สามารถป้องกันส.ส.มาผลาญงบประมาณแผ่นดิน ปีละสามถึงสี่หมื่นล้านบาท เพราะในอดีตรัฐธรรมนูญไม่เข้มงวด แต่ฉบับนี้ทั้งรัฐมนตรีและส.ส. ถ้าถูกจับได้มีความผิด ต้องถูกถอดถอน
6.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ใช้ระบบเลือกตั้งบัตรใบเดียว ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้ ตระกูลนักการเมือง นักการเมืองเก่าแก่ที่เป็นเจ้าถิ่น เจ้าพ่อ นักเลง พ่อค้าหวย ค้ายาประจำจังหวัดค่อย ๆถูกทำลายและมีโอกาสได้นักการเมืองคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ดังที่เห็นในปัจจุบัน
7.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะช่วยทำลายการตั้งมุ้งกลุ่มการเมืองเพื่อมาต่อรอง ตำแหน่งและผลประโยชน์ของตนเอง ดังจะเห็นชื่อมุ้งการเมืองในอดีต ที่มีบทบาทสำคัญ แทบจะหายไปในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
8.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะทำให้การซื้อตัวส.ส.ช่วงยุบสภา หรือหมดวาระสภา ลดลงไปมาก เพราะอิทธิพลส่วนใหญ่จะมาจากหัวหน้าพรรค นโยบายพรรค กระแสพรรคเป็นตัวนำ
9.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะช่วยลดอิทธิพลของนายทุนเจ้าของพรรค ที่จะกำหนดลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อตามเงินบริจาค หรือแม้แต่การจะชี้ตัวผู้สมัครส.ส.เขต เพราะอำนาจนี้จะถูกโอนมาให้ประชาชน ที่เป็นสมาชิกพรรคตัดสิน ผ่านการทำ Primary โหวต
10.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเพิ่มอำนาจการต่อรองให้ประชาชน และพรรคการเมืองไม่สามารถมาขู่ประชาชนได้ว่าจังหวัดไหนไม่เลือกไม่ได้งบ เพราะทุกคะแนนเสียงไม่ตกน้ำและมีความหมาย
11.ถ้าสว.หมดวาระตามบทเฉพาะกาล จะได้สว.ที่มีความเป็นอิสระ เพราะสว.จะมีการเลือกตั้งจากประชาชนกลุ่มอาชีพ ยากที่พรรคการเมืองจะมาครอบงำ เหมือนสว.ในชุดเก่า ที่ต้องอาศัยฐานเสียงพรรคการเมือง การเกิดเผด็จการรัฐสภาเช่นในอดีตจึงไม่มีโอกาสเกิดขึ้น
12.การต้องร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ รวม 11 ฉบับ มีโอกาสที่จะถูกยัดไส้ด้วยภาษากฎหมาย เพื่อนำไปสู่การนิรโทษกรรมตามมา โดยที่ประชาชนตามไม่ทัน เนื่องจากส.ส.ร. จะมีความใกล้ชิดพรรคการเมือง
13.เหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่พบว่าปัญหาของรัฐธรรมนูญนี้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน กลับกลายว่ารัฐธรรมนูญนี้ ช่วยปกป้องประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
14.ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ประชาชนยังยากลำบาก ควรจะประหยัดงบประมาณ 15,000 ล้านบาท ในการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชน น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า
“นี่คือเหตุผลสำคัญ ที่พวกเราประชาชนทุกคน ต้องช่วยกันปกป้องรักษารัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับนี้ และหากปล่อยให้มีการแก้ไข โดยเฉพาะระบบบัตรเลือกตั้งสองใบ จะนำไปสู่ปัญหาเดิมๆของประเทศ และเป็นผลเสียต่อประชาชนมากกว่า เปิดโอกาสให้รัฐธรรมนูญนี้ได้ทำหน้าต่อไป หากดำเนินไปแล้วพบปัญหาใดๆ ในการปกป้องประโยชน์ของประชาชน จึงค่อยมาแก้ไขรายมาตรา และแจ้งเหตุผลให้ประชาชนได้ทราบ”