เปิดโผ 10 อันดับหุ้น ‘ต่างชาติ’ ซื้อหนักสุด
ส่องการซื้อขายบัญชี NVDR เครื่องมือต่างชาติใช้ลงทุนหุ้นไทย พบ DELTA ฮอตสุด! มูลค่าการซื้อขาย 1.7 พันล้านบาท โบรกฯ ชี้ข้อดีลงทุนตามเรดาร์ฝรั่ง หุ้นพื้นฐานดี-อานิสงส์กระแสฟันด์โฟลว์
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (29 มี.ค. - 2 เม.ย.2564) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 4.04 แสนล้านบาท หรือมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยวันละ 8.08 หมื่นล้านบาท ขณะที่การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปรับขึ้นมาปิดปลายสัปดาห์ที่ 1,596.27 จุด จากต้นสัปดาห์เปิดที่ 1,582.91 จุด โดยระหว่างทางปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,606.41 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ หรือ หุ้น ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่ บมจ.อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) ปรับขึ้น 21.72% มาอยู่ที่ 353 บาทต่อหุ้น, บมจ.ปตท. (PTT) ปรับขึ้น 0.62% อยู่ที่ 40.50 บาทต่อหุ้น, บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ปรับลง 0.37% อยู่ที่ 67.50 บาทต่อหุ้น, บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ปรับขึ้น 7.94% อยู่ที่ 4.08 บาทจ่อหุ้น และ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ปรับลง 1.53 บาทต่อหุ้น อยู่ที่ 32.25 บาทต่อหุ้น
หากพิจารณาการซื้อขายของบัญชี "เอ็นวีดีอาร์" (NVDR) ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนชาวต่างประเทศในการซื้อหุ้นไทย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 2 เม.ย. พบว่า 10 อันดับหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,796 ล้านบาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,175 ล้านบาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,092 ล้านบาท
OR มูลค่าการซื้อขาย 828.6 ล้านบาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 828.3 ล้านบาท
STA มูลค่าการซื้อขาย 818 ล้านบาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 737 ล้านบาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 645 ล้านบาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 600 ล้านบาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 460 ล้านบาท
ส่วนหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่
DELTA มูลค่าซื้อสุทธิ 847 ล้านบาท
TOP มูลค่าซื้อสุทธิ 643 ล้านบาท
IRPC มูลค่าซื้อสุทธิ 515 ล้านบาท
PTT มูลค่าซื้อสุทธิ 497 ล้านบาท
AOT มูลค่าซื้อสุทธิ 491 ล้านบาท
OR มูลค่าซื้อสุทธิ 380 ล้านบาท
PTTEP มูลค่าซื้อสุทธิ 369 ล้านบาท
BBL มูลค่าซื้อสุทธิ 290 ล้านบาท
GUNKUL มูลค่าซื้อสุทธิ 212 ล้านบาท
MTC มูลค่าซื้อสุทธิ 204 ล้านบาท
ในส่วนของหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่
DELTA มูลค่าขายสุทธิ 949 ล้านบาท
PTT มูลค่าขายสุทธิ 678 ล้านบาท
STA มูลค่าขายสุทธิ 636 ล้านบาท
TOP มูลค่าขายสุทธิ 458 ล้านบาท
KBANK มูลค่าขายสุทธิ 450 ล้านบาท
OR มูลค่าขายสุทธิ 448 ล้านบาท
ADVANC มูลค่าขายสุทธิ 314 ล้านบาท
IRPC มูลค่าขายสุทธิ 312 ล้านบาท
AEONTS มูลค่าขายสุทธิ 277 ล้านบาท
EA มูลค่าขายสุทธิ 273 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด กล่าวว่า กลุ่มหุ้นส่วนใหญ่ที่นักลงทุนต่างชาติถือครองจะเป็นกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap.) ที่อยู่ในดัชนี SET50 หรือ SET100 เป็นหลัก โดยการซื้อหุ้นที่อยู่ในเรดาร์การลงทุนของต่างชาติ นักลงทุนสามารถมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีพอสมควร รวมถึงมีโอกาสได้รับอานิสงส์จากกระแสเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ที่ไหลเข้าออกอีกด้วย
"ส่วนหน้าหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อขาย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (Cyclical Stock) เช่น กลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร เป็นต้น ซึ่งเราก็แนะนำซื้อทุกตัว เพราะสอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ ยกเว้น DELTA ที่ราคาค่อนข้างสูงแล้ว" นายวีระวัฒน์ กล่าว