“ศิริกัญญา-พริษฐ์” เล่าความสำเร็จนโยบาย “ก้าวไกล” เปลี่ยนไทยให้ก้าวหน้า
“ศิริกัญญา-พริษฐ์” เล่าความสำเร็จทางนโยบาย “ก้าวไกล” ลั่นไม่หยุดสร้างสรรค์เพื่อเปลี่ยนประเทศให้ก้าวหน้า ตั้งโจทย์อนาคตต้องดึงประชาชนร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2565 ที่อาคารอนาคตใหม่ หัวหมาก ที่ทำการพรรคก้าวไกล ในงานเปิดแคมเปญเลือกตั้งพรรคก้าวไกล “ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า” ในส่วนของนโยบาย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลฝ่ายนโยบาย พร้อมด้วยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการสื่อสารนโยบาย พรรคก้าวไกล กล่าวบนเวทีถึงความสำเร็จทางนโยบายที่สร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นจริงแล้วและจะไม่หยุดสร้างสรรค์นโยบายเพื่อประชาชน
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงความสำเร็จและอนาคตของพรรคก้าวไกลว่า ในเส้นทางนโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็น “สุราก้าวหน้า” ที่ขจัดอุปสรรคทางกฎหมายของผู้ประกอบการรายเล็ก เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร สร้างงาน สร้างเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า เปิดหน้ายืนท้าทายกับนายทุนผูกขาดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้ประโยชน์จากสัมปทาน และกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมมายาวนานกว่า 70 ปี โดยในส่วนของนโยบาย “สมรสเท่าเทียม” ที่ยืนยันความเชื่อเรื่องสังคมที่คนเท่ากัน สังคมที่คนทุกคนเสมอภาคกัน และความเชื่อว่าทุกคนมีเสรีภาพที่ทุกคนจะทำตามฝัน โดยปราศจากความเหลื่อมล้ำ และการเลือกปฏิบัติ
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมี “พ.ร.บ.เข้าชื่อเสนอกฎหมาย” ที่เราเข้าเสนอร่างกฎหมายให้สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องมานั่งซีร็อกซ์บัตรประชาชน และทะเบียนบ้านอีกต่อไป เปิดโอกาสประชาธิปไตยทางตรงให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุด เสนอกฎหมายได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และ “การอภิปรายในสภาที่จริงจังต่อเนื่อง” เป็นสิ่งยืนยันว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนเจ้าของภาษี ที่ต้องเคารพและให้เกียรติ และเป็นการยืนยันว่าการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ของประชาชนต้องถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องตรวจสอบได้ผ่านผู้แทนของประชาชน
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า เรายังได้ใช้เวทีนี้เพื่อการตีแผ่ปัญหาระดับโครงสร้างรัฐราชการที่บิดเบี้ยว และฉ้อฉล โครงสร้างเศรษฐกิจที่เอื้อทุนใหญ่ เปิดโปงผู้มีอำนาจที่เหยียบย่ำหลักการพื้นฐานอย่างสิทธิมนุษยชน แม้เราจะพ่ายแพ้มาทุกครั้งเมื่อต้องนับมือในสภา แต่ความสำเร็จนั้นอยู่ที่นอกสภาเมื่อเราสามารถปักธงทางความคิด ให้ประชาชนได้รับรู้และเห็นตรงกันกับพวกเรา
“แม้พรรคก้าวไกลจะมีผู้แทน ไม่ถึง 50 คน แต่ก็มากพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องรอเป็นรัฐบาล และมากพอที่จะผลักดันวาระที่ก้าวหน้า และปักธงทางความคิดในสังคมได้ เมื่อสังคมเห็นด้วยกับเรามากพอ ก็เพียงพอที่จะโน้มน้าวสภาให้มาเห็นด้วยกับสังคมได้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
ส่วนนายพริษฐ์ กล่าวถึงทิศทางอนาคตการทำนโยบายของพรรคก้าวไกลว่า โจทย์ของพรรคก้าวไกลคือเราต่องเพิ่มการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น โดยสิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้ตลอดการทำงานที่ผ่านมา คือปัญหาและความสนใจของประชาชนมีความแตกต่างหลากหลายเกินกว่า คน ๆ เดียวหรือผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คน จะคิดค้นทางออกได้ทั้งหมด วันนี้พรรคก้าวไกล เลยอยากระดมพลังและไอเดียจากประชาชนทุกคนทั่วประเทศ ผ่านการเปิดตัว platform “ตลาดนโยบาย” ที่จะเปิดให้ประชาชนเข้ามาเสนอนโยบายที่เขาอยากเห็น
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า หากนโยบายใด มีประชาชนคนอื่นกด “ซื้อ” เยอะ จนได้รับคะแนนโหวตหรือเสียงสนับสนุนถึงเกณฑ์เป้าหมายที่เราตั้งไว้ เราก็จะเชิญผู้เสนอ ให้เข้ามา “ขาย” นโยบายโดยตรงต่อผู้บริหารพรรค เพื่อให้นโยบายของเขา ถูกพิจารณาไปเป็นนโยบายพรรคในการเลือกตั้งที่จะมาถึง และเพื่อให้ตัวเขา มาร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายนั้นให้เกิดขึ้นจริงหลังการเลือกตั้ง
“เมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หลายคนให้ความสำคัญกับคนแรกที่เริ่มต้นสร้าง แต่ความจริงแล้วคนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ไม่ใช่แค่คนแรกที่เริ่มทำ แต่คือทุก ๆคนที่เข้ามาร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยกัน” นายพริษฐ์ กล่าว