'สมชาย' จ่อยื่นแถลงปิดคดี มั่นใจ มีข้อเท็จจริง ชี้ 'เศรษฐา' ผิดจริยธรรม

'สมชาย' จ่อยื่นแถลงปิดคดี มั่นใจ มีข้อเท็จจริง ชี้ 'เศรษฐา' ผิดจริยธรรม

"สมชาย" เตรียมยื่นแถลงปิดคดี ต่อศาลรธน. มั่นใจมีรายละเอียด-ข้อเท็จจริง ถอด"เศรษฐา" จากเก้าอี้นายกฯ ปมตั้ง "ทนายถุงขนม" เป็นรมต. ขัดจริยธรรมร้ายแรง

นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. ฐานะผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นนายกฯ ของนายเศรษฐา ทวีสิน กรณีทำผิดจริยธรรมร้ายแรงประเด็นการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่มีประเด็นปัญหาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐธรรมนูญว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญยุติไต่สวน และให้คู่กรณีแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือ ตนฐานะผู้ร้องจะยื่นคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญตามกำหนดเวลา ทั้งนี้ ในรายละเอียดของคำแถลงการณ์ปิดคดีจะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นและวินิจฉัยได้ว่านายเศรษฐา นั้นมีความผิดหรือไม่ ในประเด็นรู้หรือควรรู้ว่าการนำชื่อบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามทั้งที่รู้หรือควรรู้นั้นไม่ถูกต้อง ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นที่เคยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คือ นายเศรษฐา นายปกรณ์​ นิลประพันธ์เลขาธิการกฤษฎีกา และนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ อดีตนายกสภาทนายความ

นายสมชาย กล่าวว่า ในรายละเอียดที่เกี่ยวกับนายเศรษฐาหากศาลได้ไต่สวนจะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในขั้นตอนธุรการ ตามที่อ้างว่าเป็นเรื่องของเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจคุณสมบัติตามขั้นตอนราชการ เพราะเรื่องดังกล่าวต้องให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจลงนามด้วย ส่วนกรณีของนายปกรณ์นั้น คือ การทำหนังสือสอบถามกฤษฎีกาที่พบว่าสอบถามแค่ครั้งแรกและเลือกถามแค่บางข้อ ทั้งที่ในวิสัยแล้วต้องถามให้ครบทั้งมาตรา ดังนั้นการเลือกถามจึงเป็นความผิดปกติ

นายสมชาย กล่าวต่อว่าในประเด็นของนายเดชอุดมนั้น เป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการถอดใบอนุญาตทนายความ ซึ่งเป็นการพิจารณาตามที่เลขาธิการศาลยุติธรรมสมัยนั้นทำหนังสือให้พิจารณา เพราะมีกรณีของถุงขนม 2 ล้านบาท ซึ่งคำสั่งศาล ที่เทียบเท่าคำพิพากษาให้จำคุก

“การที่เลขาธิการศาลยุติธรรม มีหนังสือส่งไปสภาทนายความพิจารณาถอนใบอนุญาตทนายความ จนถึงตอนนี้  นายพิชิต และพวก รวม 3 คน ยังไม่ได้รับการคืนใบอนุญาตจากสภาทนายความ แม้นายพิชิตจะมีการฟ้องศาลปกครองในกรณีขอคืนใบอนุญาตทนายความ แต่ศาลปกครองได้พิพากษายืนตามสภาทนายความ ดังนั้นจะชี้ให้เห็นว่าเป็นการทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงจริงหรือไม่” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวด้วยว่าเมื่อศาลยุติการไต่สวนและนัดวันลงมติและฟังคำวินิจฉัยในคดดีนี้ ต้องเคารพศาล อย่างไรก็ดีในคำแถลงปิดคดีของตนนั้นจะเสนอต่อศาลให้เห็นว่านายเศรษฐานั้นทำผิดอย่างไร จึงเสนอให้ศาล พิจารณาสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ซึ่งจะทำให้ ครม.พ้นไปทั้งคณะด้วย แต่ในวันที่ศาลวินิจฉัยจะมีผลไปในทางใดตนพร้อมเคารพ ส่วนตัวเชื่อมั่นในศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในขั้นตอนทำคำแถลงปิดคดี​จะทำให้รัดกุมชี้ให้เห็นทุกกรณี  โดยตนฐานะผู้ร้อง เชื่อมั่นว่า นายเศรษฐาน่าจะมีความผิด.