‘ชูศักดิ์’ ชี้ หน.พรรคร่วมฯ ต้องถก ‘แก้รธน.’ ทั้งฉบับ ฝ่าเกณฑ์ประชามติ2ชั้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ สว. มีแนวโน้มแก้ไขร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ โดยใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก2ชั้น ทั้งผู้ออกมาใช้สิทธิต้องเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ และเสียงเห็นชอบต้องเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ

ใน การทำประชามติ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เราต้องดูว่าท้ายที่สุดมติ สว. จะเห็นตาม กมธ.ของวุฒิสภาหรือไม่ ถ้าเห็นว่ากลับมาสองชั้น ก็แตกต่างจากมติของสภาฯ หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องเอาข้อบังคับมาพิจารณาร่วมกัน โดยอาจมี กมธ.ร่วม ทั้งนี้ การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ จะช้ากว่าไทม์ไลน์ที่เป็นอยู่ที่ให้ทำพร้อมกับการเลือกตั้งสมาชิก อบจ. ช่วง ก.พ.68 ก็ไม่สามารถทำได้ อาจต้องแยกพิจารณาทำคนละครั้ง

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือการหารือร่วมกับหัวหน้าพรรคการเมืองที่ต้องคุยกันให้ชัด ว่าต่อไปควรจะเดินแบบไหน เช่น มีข้อเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ ม.256 หรือไม่ โดยเสนอญัตติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ถ้าผ่านรัฐสภาก็ไปทำประชามติเลย แนวทางนี้จะทำประชามติเพียง2ครั้ง ไม่จำเป็นต้อง3ครั้งเหมือนเดิม จึงอยากให้คุยกับหัวหน้าพรรคให้ชัด เพราะเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายของรัฐบาล

“เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าต่อเรื่องทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงต้องหารือว่าเราควรจะเดินอย่างไรต่อไป มีทางเลือกอะไรบ้าง” นายชูศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า การคุยกับหัวหน้าพรรคการเมือง จะส่งผลไปถึง สว. หรือไม่ในการแก้ไขให้เหลือเพียงชั้นเดียวตามที่สภาฯเคยเห็นชอบ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนั้นเกินไทม์ไลน์ไปแล้ว ปล่อยเป็นดุลพินิจของสว. แต่สมมติว่าสถานการณ์เป็นอยู่แบบนี้ โดย สว.ใช้เกณฑ์ลงมติ2ชั้น รัฐบาลก็มีนโยบายจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราก็มาเริ่มต้นพูดคุยกันดีหรือไม่ ว่าท้ายสุดควรจะเดินไปอย่างไรจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ราบรื่น เพราะนโยบายรัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว 

เมื่อถามว่า การพูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องการให้พรรคการเมืองหนึ่งเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ เพราะจะมีผลต่อสว.ด้วยใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปพูดแบบนั้นมันไม่ดี เอาเป็นว่าตนขอเสนอให้มานั่งจับเข่าคุยกันในฐานะที่เป็นพรรครัฐบาลด้วยกัน หลายพรรค ว่าถ้าสว.เดินไปแบบนี้แล้วรัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร