'ปิยบุตร' ช่วย 'ผู้สมัครนายกอบจ.บึงกาฬ' หาเสียงชวนเปลี่ยนเลือกคนรุ่นใหม่
"ปิยบุตร" ลุย "บึงกาฬ" ช่วย "ผู้สมัครนายกอบจ." ในนาม "คณะก้าวหน้า" หาเสียง ชู กระจายอำนาจ ปลุก ท่องเที่ยวในพื้นที่ ชวน ชาวบ้านลองเปลี่ยน ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ แทนที่จะวนเวียนกับ "บ้านใหญ่" ทำท้องถิ่น เป็นการเมืองแบบใหม่
ที่ตลาดบึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าพร้อมด้วยนายภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บึงกาฬ(เบอร์ 2) พร้อมผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) บึงกาฬทั้ง 21 เขต ในนามคณะก้าวหน้า ร่วมเปิดเวทีปราศรัย พร้อมเดินตลาดพบปะหาเสียงกับประชาชน เพื่อรณรงค์การเลือกตั้งในระดับทองถิ่นที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 20 ธันวาคม นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายปิยบุตร ได้กล่าวถึงความเป็นมาของคณะก้าวหน้าในการทำงานการเมืองท้องถิ่น และความสำคัญของจังหวัดบึงกาฬ โดยระบุว่า ตั้งแต่สมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ มีนโยบายสำคัญคือเรื่องการกระจายอำนาจ ทวงคืนอำนาจรัฐที่กระจุกอยู่ที่ศูนย์กลางเมืองหลวง งบประมาณมหาศาลที่ไปกระจุกตัวยู่ที่ศูนย์กลาง ต้องเอากลับมาไว้ที่ท้องถิ่น โดยมีความตั้งใจว่าจะส่งผู้สมัครท้องถิ่นลงในทุกระดับในนามของพรรคอนาคตใหม่ แม้ว่าวันนี้พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบไปแล้ว แต่เราก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้ เริ่มต้นใหม่เป็นคณะก้าวหน้า ครั้งนี้ ตัดสินใจส่งผู้สมัคร อบจ.ในนามคณะก้าวหน้าทั้งสิ้น 41 จังหวัด และหนึ่งในนั้นคือจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย ที่เราให้ความสำคัญไม่แพ้จังหวัดอื่น และการส่งนายก อบจ.ลงพื้นที่นี้ เป็นดำริของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่เห็นโอกาสและศักยภาพของจังหวัดน้องใหม่ แม้คนทั่วไปมองว่าเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ แต่เราเห็นโอกาสที่จะเข้ามาบริหาร และสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เราเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยากมาทำงานกับเรามาทำงานร่วมกัน จนได้คนรุ่นใหม่ไฟแรงเข้ามา นั่นคือ คุณภูมิพันธ์ ที่ยังยืนหยัดอยู่กับเราจนมาเป็นคณะก้าวหน้า ไม่เคยเปลี่ยนแปรอุดมการณ์ไปไหน
"คุณภูมิพันธ์เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ได้เป็นประธานนักธุรกิจรุ่นใหม่จังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จ มีความชำนาญเรื่องการท่องเที่ยว เหมาะสมที่จะเข้ามาบริหารบึงกาฬเป็นอย่างมาก วิสัยทัศน์ของภูมิพันธ์ มองเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดบึงกาฬในหลายเรื่องที่สามารถพัฒนาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยางพารา จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดภาคอีสานที่ปลูกยางพาราได้มากเป็นอันดับต้นๆ แต่เกษตรกรกลับขายได้ราคาถูก อีกประการคือการท่องเที่ยว จังหวัดบึงกาฬมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่สามารถพัฒนา ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นเศรษฐกิจการค้าขายในจังหวัดได้ แต่วันนี้ยังไม่มีการพัฒนา ทำให้บึงกาฬไม่อยู่ในสายตาของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวภาคอีสาน และนี่คือสิ่งที่คุณภูมิพันธ์จะเข้ามาลงมือทำหากได้รับความไว้วางใจจากชาวจังหวัดบึงกาฬ" ปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า เรากำลังจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้ ในกรณีของจังหวัดบึงกาฬยิ่งมีความสำคัญ เพราะตั้งแต่ได้รับการจัดตั้งเป็นจังหวัดที่ 77 มา ชาวบึงกาฬยังไม่เคยได้เปลี่ยนตัวนายก อบจ.เลยแม้แต่ครั้งเดียว ตนจึงอยากชวนพี่น้องประชาชนว่ามาเปลี่ยนดูไหม ว่าให้คนรุ่นใหม่ได้ขึ้นมาบริหารบึงกาฬแล้วจะดีกว่าเดิมหรือไม่ เวลาเราพูดกันถึงการเลือกตั้ง อบจ.หรือการเลือกตั้งท้องถิ่น ประชาชนหลายคนไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือให้ความสนใจเท่ากับการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะไปเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาการเลือกตั้งท้องถิ่นมักจะวนเวียนอยู่ในวงศ์วานว่านเครือ อยู่กับเครือข่ายกลุ่มเดิมๆ หรือที่เรียกว่า "บ้านใหญ่" ของแต่ละจังหวัดวนไปเวียนมา ครั้งนี้ คณะก้าวหน้าจึงต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงตรงนี้ด้วย เราอยากให้การเมืองท้องถิ่นเป็นการเมืองแบบใหม่ เป็นการเมืองของคนทุกๆ คน เป็นการเมืองของพี่น้องชาวจังหวัดบึงกาฬทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้ ไม่ต้องรู้จัก ไม่ต้องเป็นเครือข่ายของบ้านใหญ่ที่ไหน
"คณะก้าวหน้าเราเปิดโอกาสให้คนธรรมดาทุกๆ คน คนที่คุณสามารถเจอะเจอได้ทั่วไปในชีวิประจำวัน พบปะพูดคุยกันเป็นเพื่อนบ้าน แต่มีความปรารถนาดี อยากจะเปลี่ยนแปลงการเมืองอยากจะเปลี่ยนแปลงจังหวัดบึงกาฬให้ดีขึ้น เชิญเข้ามาร่วมกับเราได้ทันที แล้วนี่จึงเป็นที่มาที่ไปของการที่เราได้คุณภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น นักธุรกิจ ซึ่งไม่ได้มีเครือข่ายในทางการเมืองเลย ไม่ได้อยู่ในบ้านใหญ่ ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกับนักการเมืองคนไหน แต่เขามีความตั้งใจ เขามีความหวังว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงบึงกาฬได้ เขาเลยมาร่วมกับเรา” นายปิยบุตรกล่าว
ด้าน นายภูมิพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนและว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ. ทั้ง 24 คน 24 เขต ครบทั้งหมดในจังหวัดบึงกาฬ พร้อมแล้วที่จะเป็นตัวแทนของคณะก้าวหน้า โดยที่ผ่านมา ในการออกแบบนโยบาย มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนแล้วก็เห็นว่า นโยบายสำคัญที่สุดคือเรื่องยางพารา เราถามกันมากว่าทำไมยางพาราถึงราคาต่ำ สาเหตุนั่นก็เป็นเพราะว่า เราไม่ได้เป็นคนกำหนดราคาเอง และที่เราไม่อาจกำหนดราคาเองได้ ก็เพราะเราไม่ใช่เจ้าของโรงงาน ดังนั้นนโยบายหนึ่งที่ตนและทีมงานคณะก้าวหน้าจะเข้ามาดูแลก็คือเรื่องพืชเศรษฐกิจอย่างยางพาราบึงกาฬเป็นจังหวัดที่ปลูกยางพาราเป็นอันดับ 1 ของภาคอีสาน และเป็นอันดับ 4 ของประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเป็นเรื่องยางพาราเป็นหลัก ทำอย่างไรก็ได้เพื่อเพิ่มมูลค่าของยางพาราขึ้นมา โดยเปลี่ยนจากการปลูกที่เกษตรกรส่งยางขายเพียงอย่างเดียวเป็นการแปรรูปคิดในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า
"อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ผมได้และทีมคณะก้าวหน้าได้ออกแบบนโยบายไว้นั่นคือ ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัวเองเชี่ยวชาญโดยตรง เพราะทำงานเกี่ยวกับด้านนี้มาอย่างยาวนาน และปัจจุบันก็เป็นนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ และการจะยกระดับและพัฒนาในเรื่องนี้ได้ แรกสุ่ดเราต้องตั้งธงไว้ก่อนเลยว่า เราจะเป็นเมืองอะไร จังหวัดบึงกาฬ เป็นเมือง 4 โขง 4 เขา ใช่หรือไม่ อย่างนี้ต้องประชาสัมพันธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้คนรู้จักให้มากขึ้นหรือแม้แต่การจัดงานเทศกาลต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวในจังหวัด จะเป็นการยกระดับพัฒนาจังหวัด และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องชาวบึงกาฬ เป็นเศรษฐกิจที่มาจากการท่องเที่ยว" นายภูมิพันธ์ กล่าว