เน็ตฟลิกซ์ ลดทราฟฟิกลง 25% รวม 'ไทย' ลดความแออัดเน็ต 

นายเคน ฟลอแรนซ์ (Ken Florance) รองประธานฝ่ายนำเสนอเนื้อหา เน็ตฟลิกซ์ โอเพ่น คอนเนค (Netflix Open Connect) เปิดเผยว่า เน็ตฟลิกซ์ได้ลดปริมาณการส่งข้อมูลลง 25% ในประเทศที่เน็ตฟลิกซ์ให้บริการ รวมถึงไทย จากที่ก่อนหน้านี้ได้เริ่มลดทราฟฟิกลงในประเทศอิตาลี และสเปน ไปแล้ว โดยในไทย ได้เริ่มลดทราฟฟิกลง โดยมีผลหลังเที่ยงคืนของวันที่ 30 มี.ค.63 (ย่างเข้าวันที่ 31 มี.ค.)    

เน็ตฟลิกซ์ เผยรายละเอียดว่า "ขณะนี้เรากำลังอยู่ในภาวะวิกฤติที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก และเรามีหน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลือเท่าที่เราจะทำได้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสหภาพยุโรปได้ขอให้บริษัทต่างๆ อย่าง      เน็ตฟลิกซ์, อะเมซอน และยูทูบ ดำเนินการใช้เครือข่ายโทรคมนาคมอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการใช้เครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน  เราจึงได้พัฒนา ทดสอบ และเริ่มใช้วิธีลดปริมาณการส่งข้อมูลของ Netflix ลง 25% ทันที โดยเริ่มในประเทศอิตาลีและสเปนซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด และบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ภายใน 48 ชั่วโมง และขณะนี้เรากำลังดำเนินการดังกล่าวในประเทศอื่นๆ แถบยุโรปและสหราชอาณาจักร" 

อย่างไรก็ตาม การลดทราฟฟิกลงครั้งนี้ ยังรวมถึงตลาดในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วย ซึ่งผู้บริหารเน็ตฟลิกซ์ยืนยันว่า การลดทราฟฟิกลง ผู้รับชมในไทย จะยังได้รับประสบการณ์ที่ได้คุณภาพ แม้จะยอมรับว่า ความคมชัดอาจลดลง แต่ยังอยู่ในระดับมาตรฐาน โดยยืนยันว่า ผู้รับชมจะไม่เจอปัญหา "หน้าจอค้าง" หรือ "สัญญาณสะดุด" แน่นอน

เคน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ได้รับคำถามมากมายจากสมาชิกและพาร์ทเนอร์ของเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)  โดยสมาชิกได้สอบถามมาว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพวิดีโออย่างไร 

"กล่าวง่ายๆ ก็คือเรายังคงคุณภาพของวิดีโอให้ละเอียดคมชัดเท่าเดิมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นแบบความคมชัดสูงพิเศษ (UHD) ความคมชัดสูง (HD) หรือความคมชัดมาตรฐาน (SD) และคุณควรจะได้รับบริการในระดับดังกล่าวต่อไปเช่นเดิม (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่คุณใช้) โดยปกติแล้วจะมีการสตรีมเนื้อหาเรื่องหนึ่งๆ ในระดับความคมชัดแต่ละระดับหลายสตรีม (บางครั้งหลายสิบสตรีม) แต่สำหรับประเทศแถบยุโรปในช่วง 30 วันข้างหน้า เราจะยกเลิกแบนด์วิดท์การสตรีมในระดับความคมชัดสูงสุด หากคุณตั้งใจดูความละเอียดคมชัดของวิดีโอ คุณอาจสังเกตเห็นว่าคุณภาพในแต่ละระดับความคมชัดลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงคุณภาพวิดีโอตามแพ็กเกจที่คุณเลือกใช้ไว้เหมือนเดิม" 

ส่วนผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตนั้น พาร์ทเนอร์บางรายของเน็ตฟลิกซ์ในภูมิภาคต่างๆ อย่าง ละตินอเมริกา ต้องการให้เน็ตฟลิกซ์ ลดแบนด์วิธลงโดยเร็วที่สุด ในขณะที่บริษัทอื่นๆ ต้องการให้เน็ตฟลิกซ์ดำเนินงานตามปกติ ซึ่งเน็ตฟลิกซ์ เข้าใจทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี เพราะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแต่ละรายทั่วโลกสร้างเครือข่ายที่แตกต่างกันและมีข้อจำกัดในการดำเนินงานที่แตกต่างกัน เช่น การวางเครือข่ายสำหรับที่พักอาศัยในย่านที่มีประชากรหนาแน่นนั้นต่างจากการวางเครือข่ายสำหรับที่พักอาศัยในเขตที่มีประชากรเบาบาง ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางรายสร้างเครือข่ายเผื่อไว้รองรับความต้องการในอนาคต ("เฮดรูม") แต่บางรายสร้างเครือข่ายเอาไว้รองรับความต้องการในปัจจุบันเท่านั้น 

"โชคดีที่เรามีประสบการณ์ในการส่งข้อมูลของเน็ตฟลิกซ์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยโครงการ Open Connect รวมทั้งเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เราเป็นผู้บุกเบิก จึงสามารถตอบรับกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจะให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ต้องจำกัดการดำเนินงานตามคำสั่ง "Shelter in Place" ของรัฐบาลด้วยการลดปริมาณการส่งข้อมูลลง 25% อย่างที่เราได้เริ่มไปแล้วในยุโรป ในส่วนของเครือข่ายอื่นๆ นั้น เราจะยังดำเนินงานตามปกติ จนกว่าจะเครือข่ายเหล่านั้นจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ครั้งนี้"

เน็ตฟลิกซ์ เผยว่า จุดมุ่งหมายของเน็ตฟลิกซ์  คือก ารรักษาคุณภาพบริการที่มอบให้กับสมาชิก และในขณะเดียวกันก็ให้การสนับสนุนบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตซึ่งมีเครือข่ายที่ต้องทำงานหนักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนด้วย