'พริ้นซ์' ชี้นวัตกรรมกุญแจฝ่าวิกฤติโควิด
“รพ.พริ้นซ์” เผยโควิดเปรียบเหมือนสงครามโลก เสนอสูตรรอดต้องผนึกองค์กรความรู้ของสหวิชาชีพด้านการแพทย์ร่วมกัน แบ่งปันข้อมูล องค์ความรู้ พร้อมดึงนวัตกรรมยกระดับการแพทย์-เฮลธ์แคร์ในทุกมิติ
นายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19ที่เกิดขึ้นเปรียบได้กับสงครามโลก เพราะทุกคนต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก การจะผ่านไปได้ต้องผนึกองค์กรความรู้ของสหวิชาชีพด้านการแพทย์ร่วมกัน ทั้งการแบ่งปันข้อมูล แชร์ริ่ง องค์ความรู้ เพราะการรักษาคนไข้หนึ่งคนจำเป็นต้องผสานความรู้ ความสามารถทั้งจากอายุรกรรม แพทย์ที่เชี่ยวด้านโรคปอด โรคไต หรือการติดเชื้อ และแพทย์ด้านระบาดวิทยา ซึ่งโรงพยาบาลปริ้นซ์เองมีการหารือร่วมกับโรงพยาบาลอื่น เพื่อทำการรักษาให้ได้ผลอย่างดีสุด
จุดพลุดิจิทัลแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ ในอนาคตจะได้เห็นก้าวกระโดดหรือ Jump Start ของการนำเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาในอุตสาหกรรมทางการแพทย์หรืออุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในหลายๆมิติ ซึ่งจะได้เห็นเวอร์ชั่ล ฮอทปิทอล และ ดิจิทัล เฮลท์แคร์ ซึ่งจะเกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะโควิด-19 เข้ามาเป็นตัวเร่ง ซึ่งจะเป็นโอกาสให้อุตสาหกรรมด้านสุขภาพจำเป็นต้องเร่งพัฒนาและปรับตัวอยู่เสมอ
“การทำ Home Isolation คือการดิสรัปชั่นการรักษาตัวในโรงพยาบาล 100% เพราะคนไข้ไม่ต้องมาพบหมอ แต่ใช้เทคโนโลยีในการปรึกษา ตรวจรักษาตลอด 14 วันที่ต้องกักตัว ใช้ระบบไอทีในการส่งยา ตรวจเชื้อผ่านแลป ตรงนี้เองคือโอกาสที่เราต้องมองว่าเมื่อจบโควิดหรือสถานการณ์คลี่คลายแล้วนั้น การประยุกต์ใช้ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ด้านเฮลท์แคร์จะมีความสำคัญอย่างที่สุด”
ผนึกพาร์ทเนอร์เสริมแกร่ง
เขา กล่าวเสริมอีกว่า ในฐานะของโรงพยาบาลปริ้นซ์ที่มองเรื่องสุขภาพต้องผนึกกับเทคโนโลยีมาโดยตลอด โรงพยาบาลเองมีการวิจัยอาร์แอน์ดีในเรื่องดังกล่าว เพื่อจะพัฒนาตัวเองไปถึงการทำเฮลท์แคร์แพลตฟอร์ม 4.0 เกิดการประยุกต์ของเทคโนโลยีผ่านการบูรณาการในทุกๆด้านที่เกี่ยวข้อง เพราะเทรนด์ของดิจิทัล เฮลท์แคร์ของโลกเติบโตอย่างมาก มีการใช้เอไอในการอ่านฟิลม์ เอ็กซ์เรย์ มีการนำเอาเครื่องมือมาช่วยสนับสนุน
ดังนั้น กุญแจแห่งความสำเร็จ (Key Succes) ส่วนตัวมองว่า การพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมจะเป็นทางที่สร้างโอกาสให้เกิดความสำเร็จมากที่สุด ทั้งการทำพันธมิตรกับเด็กรุ่นใหม่ สตาร์ทอัพ เราอาจมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ แต่ในด้านความรู้เท่าทันเอไอ บลอกเชน แมชชีน เลิร์นนิ่ง อาจจะไม่ได้ชำนาญเท่าเด็กรุ่นใหม่ ตรงนี้คือสิ่งที่เรามองว่าจะเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ
“การทำธุรกิจในยุคใหม่การมองหาพาร์ทเนอร์ ชิพ ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาเสริมให้กับองค์กรของเรา เป็นสิ่งที่ต้องรับเอามาปรับใช้ การโตได้หรืออยู่รอดในธุรกิจหากเราไม่เก่งเรื่องใดก็หาคนเก่งๆมาช่วยทำ”
นายสาธิต กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับอุตสาหกรรมทางด้านสาธารณสุขแล้ว การปกป้องข้อมูลหรือเรื่องความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวของคนไข้ก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เพราะข้อมูลการรักษาพยาบาลก็มีความสำคัญอย่างมากไม่แพงข้อมูลส่วนบุคคลด้านๆอื่น
ปัจจุบัน โรงพยาบาลเองได้นำเอาคลาวด์ เทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลคนไข้ที่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดต้องมีการรักษาผ่านสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้เกิดภัยด้านไซเบอร์ ซิเคียวริตี้