’ลาว’ เล็งเจรจา ’จีน’ แลกหนี้เป็นทุน เลี่ยงผิดนัดชำระเจ้าหนี้รายใหญ่

’ลาว’ เล็งเจรจา ’จีน’ แลกหนี้เป็นทุน เลี่ยงผิดนัดชำระเจ้าหนี้รายใหญ่

’ลาว’ เล็งเจรจา ’จีน’ แปลงหนี้เป็นทุน และขอผ่อนชำระหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระเจ้าหนี้รายใหญ่กว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังมุ่งพัฒนาโครงการ หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ กดดันหนี้สาธารณะพุ่ง 108% ต่อ GDP

KEY

POINTS

  • จีน เจ้าหนี้รายใหญ่ของลาว คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ 
  • เงินเฟ้อลาวสูงถึง 25% ในช่วงครึ่งปีแรก 

  • โมเดล 'แลกหนี้เป็นทุน' มาใช้ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาของการไฟฟ้าลาวมาก่อน
  • ลาวขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นเป็น 10% จาก 8.5% เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ลาวกำลังพิจารณาเจรจากับจีนเพื่อเปลี่ยนหนี้สินมหาศาลเป็นทุน ซึ่งเป็นกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากปัจจุบันลาวมีภาระหนี้สินสูงมาก โดยเฉพาะหนี้ที่ค้างชำระกับจีน ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของหนี้ต่างประเทศทั้งหมดของลาว

“วัดทะนา ดาลาลอย” รองผู้ว่าการธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (BOL)  กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก ว่ารัฐบาลได้เจรจากับปักกิ่งเพื่อขอการผ่อนผันการชำระหนี้ ซึ่งลาว และจีนมีการเจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้กันเป็นประจำทุกปี

การก่อหนี้เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะภายใต้โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน ทำให้ภาระหนี้ของลาวพุ่งสูงเกินกว่ากำลังผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้รัฐบาลต้องแบ่งสันปันส่วนงบประมาณส่วนใหญ่ไปชำระหนี้ แทนที่จะนำไปลงทุนในภาคการผลิตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้เข้าประเทศ

ดังนั้น หนึ่งในแนวทางที่อาจช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซาจากภาระหนี้สินมหาศาลคือ การนำโมเดล 'แลกหนี้เป็นทุน' มาใช้ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาของการไฟฟ้าลาวมาก่อน กล่าวคือ รัฐบาลอาจพิจารณาเสนอให้เจ้าหนี้แปลงหนี้เป็นส่วนแบ่งการถือหุ้นในกิจการของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เพื่อลดภาระการชำระหนี้ และเพิ่มสภาพคล่องให้กับเศรษฐกิจ

"ในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ แต่ว่าจะมีนัยสำคัญแค่ไหนนั้น ลาวยังไม่ได้ตัดสินใจ โดยจะดำเนินการเจรจากับรัฐบาลจีนต่อไป และจะดูว่าทางการจีนจะตอบสนองอย่างไร" ดาลาลอย กล่าว

'จีน'ครองแชมป์เจ้าหนี้ลาว

ลาวกำลังเผชิญภาวะหนี้สินที่น่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้สินต่อจีน ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของลาว คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของหนี้รัฐบาลต่างประเทศทั้งหมด มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.6 แสนล้านดอลลาร์) สถานการณ์นี้ส่งผลให้หนี้สาธารณะรวมของลาวพุ่งสูงถึง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 108% ของ GDP

ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การชำระหนี้ต่างประเทศของลาวในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เป็น  950 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.4 หมื่นล้านบาท)ทำให้รัฐบาลลาวต้องขอความช่วยเหลือในการผ่อนผันการชำระหนี้

แม้จะมีสถานการณ์ที่น่ากังวล แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายยังคงมองโลกในแง่ดี เชื่อว่าลาวจะสามารถจัดการกับภาระหนี้ได้ และไม่มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในปีนี้

ทั้งนี้ แม้จะเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ แต่เราก็ตระหนักดีถึงความท้าทายในการชำระหนี้ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะเงินเฟ้อที่สูงถึง 25% ในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้การบริหารจัดการทางการเงินเป็นเรื่องที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น"

อย่างไรก็ตาม ลางยังความมั่นใจว่าด้วยศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ และภาคการผลิตที่หลากหลาย จะช่วยให้เราสามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้

"แม้จะต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมาก เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย"

นอกจากนี้ ทางธนาคารกลางลาวได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ระยะสั้นเป็น 10% จาก 8.5% เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยดาลาลอยกล่าวว่าอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ในอีก2-3 เดือนข้างหน้า

ดาลาลอยทิ้งท้ายว่า ”ลาวยังมีศักยภาพมากในการฟื้นตัว เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดการหนี้มากขึ้น และลดน้ำหนักในแง่ของการลงทุนในโครงการลงทุนสาธารณะ“

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์