ทรัมป์เป็นคนยังไงกันแน่ ?

ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นคนอย่างไรกันแน่ หลายคนมีความเห็นที่แตกต่างกันมากทั้งด้านดีและร้ายสุดขั้ว

นายวิลเบอร์ รอสส์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐในสมัยแรกของทรัมป์ กล่าวกับบีบีซีว่า “เขามีบุคคลิกฉูดฉาด แต่ภายใต้ภาพลักษณ์โดดเด่นนี้ ทรัมป์เป็นคนจริงจัง คิดรอบคอบ”

จอห์น เคลลี อดีตนายพลนาวิกโยธินผู้เคยทำงานกับทรัมป์ ในตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเมื่อปี 2017-2019 กล่าวว่า “ แน่นอนว่า อดีตประธานาธิบดีเป็นขวาสุดโต่ง เขาเป็นเผด็จการแน่ๆ เขาชื่นชมคนที่เป็นเผด็จการ ดังนั้นเขาจึงมีลักษณะตรงตามคำนิยามของฟาสซิสต์”

เคลลีเปิดเผยกับนิวยอร์กไทม์ส ว่า ทรัมป์เคยพูดมากกว่าหนึ่งครั้งว่า “คุณรู้ไหม ฮิตเลอร์ก็ทำดีบางอย่างด้วย” เคลลีเชื่อว่า “ในการบริหารประเทศ ทรัมป์ชอบวิธีของเผด็จการมากกว่า”

ส่วนจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ที่ทำงานกับทรัมป์ในช่วงการดำรงแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ได้วิจารณ์ทรัมป์อย่างเผ็ดร้อนมาตลอดผ่านหนังสือที่เขาแต่งและผ่านการให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ แม้โบลตันจะไม่เห็นด้วยว่าเขาเป็นเผด็จการฟาสซิสต์ เช่น ฮิตเลอร์ แต่ชี้ว่าพฤติกรรมของทรัมป์เป็น “คนชอบก่อ ปัญหา แต่ยังไม่เก่งพอที่จะเป็นฟาสซิสต์ เพราะเขาไม่มีความรู้ด้านปรัชญา”

โบลตัน กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า “ผมไม่ได้พยายามที่จะประเมินว่าการที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีเป็นอันตรายน้อย แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องมุ่งไปที่สิ่งที่เป็นอัตรายโดยตัวของมันเอง”

 

โบลตันเชื่อว่า ทรัมป์พร้อมที่จะญาติดีกับเผด็จการ เช่น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และพันธมิตรปูตินอย่างประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ ซึ่งพวกเขารู้วิธีเล่นเกมกับทรัมป์เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา 

โบลตันตำหนิด้วยว่า ทรัมป์มีความรู้พื้นฐานด้านการเมืองระหว่างประเทศน้อยมาก

นักข่าวระแวงทรัมป์

ด้านคนในแวดวงสื่อมวลชนในสหรัฐจำนวนมากมีความเห็นเป็นลบกับทรัมป์เพราะระแวงว่า เขาจะเข้ามาทำลายระบอบประชาธิปไปตย และระบบนิติรัฐ ทั้งนี้ ทรัมป์ชอบกล่าวหาสื่อกระแสหลักว่าสร้างข่าวเท็จ ในขณะที่ทรัมป์เองและอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีโลกคู่บุญ ชอบปล่อยข่าวเท็จบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่นกัน

บ็อบ วูดเวิร์ด นักข่าวที่มีชื่อเสียงจากการเปิดโปงคดีวอเตอร์ เกต ให้สัมภาษณ์กับ MSNBC's Morning Joe ว่า “ทรัมป์เป็นคนอันตราย ไม่เข้าใจในความรับผิดชอบของประธานาธิบดี” แต่เขาฝากความหวังไว้กับคนที่ทำงานในสถาบันสำคัญของชาติสหรัฐว่า “คนในสถาบันต่างๆ มีความเข้มแข็งกว่าทรัมป์ จะสามารถเอาชนะพวกเขาไหมน่ะหรอ? ทรัมป์จะสามารถใช้อำนาจประธานาธิบดีทำลายรัฐธรรมนูญและระบบกฎหมายหรือเปล่า? เราคงต้องจับตาดูความพยายามเหล่านั้นว่าจะเป็นไปอย่างไรต่อไป”

คนอเมริกันในไทยมองทรัมป์ต่างกัน

ส่วนคนอเมริกันที่อยู่ในประเทศไทยมองต่างมุม นายโทนี รอดริเกวซ รองประธานกลุ่มรีพับลิกันต่างประเทศ (Republicans Overseas ) ในประเทศไทยบอกว่า เขาไม่เคยพบทรัมป์ แต่ได้ยินคนใกล้ชิดทรัมป์บอกว่า เขาเป็นคน “ใจกว้าง มีเมตตา และคิดอะไรรอบคอบ” แต่นายฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการองค์กรสิทธิมนุษยชนและแรงงานแห่งเอเชีย (AHRLA) และเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต วิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรงว่า เป็นคนเลวร้ายมาก และจะทำให้เกิดวิกฤติทั้งในสังคมสหรัฐและในโลก โดยเฉพาะจากนโนบายเนรเทศผู้อพยพหลายล้านคนออกนอกประเทศ

นักวิเคราะห์ไทยมองทรัมป์อย่างไร

ผศ.ดร.วิบูลพงศ์ พูนประสิทธิ์ ที่ปรึกษาสมาคมอเมริกาศึกษาในประเทศไทย กล่าวถึงทรัมป์ว่า เป็นคนห่ามๆ หรือตามศัพท์ภาษาอังกฤษที่ว่า Conman แต่ทรัมป์ร่ำรวยจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีอิทธิพลการเมืองในสหรัฐมาก ไม่มีใครที่เอาชนะเขาได้ ทำให้หลายคนต้องทำตามภาษิตที่ว่า “ถ้าคุณโค่นเขาไม่ได้ ก็ร่วมกับเขาซะ” หรือ If youn can’t beat them, join them.

ในกรณีที่มีคนวิจารณ์ว่า ทรัมป์มีบุคคลิกภาพโน้มเอียงไปในทางเจ้าลัทธิบูชาบุคคล (a cult of personality) นั้น เรื่องนี้ ดร. วิบูลพงศ์ยังกล่าวถึงทรัมป์ว่า ทรัมป์เชื่อแบบคนอนุรักษนิยมในสังคมอเมริกันที่เชื่อในพระเจ้ามาก 

ทรัมป์เคยกล่าวกับผู้สนับสนุนว่า พระเจ้าช่วยให้เขารอดชีวิต หลังจากที่ทรัมป์รอดตายจากการถูกลอบสังหารที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพน ซิลเวเนียเมื่อเดือนกรกฎาคม ผู้สนับสนุนจำนวนมากของเขาเชื่อว่า พระเจ้าเลือกให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีมาตั้งแต่เขาชนะเลือกตั้งครั้งแรกแล้ว

ดร. วิบูลย์พงศ์กล่าวว่า คนอเมริกันจำนวนมากมีพฤติกรรมชอบลัทธิบูชาตัวบุคคล

ในสหรัฐเคยเกิดโศกนาฎกรรม กรณีคนฆ่าตัวตายหมู่ตามเจ้าลัทธิทางศาสนา เช่น กรณี Heaven's Gate หรือ ลัทธิประตูสู่สวรรค์ ในปี 1997 ซึ่งมีคนฆ่าตัวตายหมู่มากถึง 39 รายที่เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เข้าใจยากว่า เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในสังคมที่เจริญมากเช่นอเมริกาได้อย่างไร

ส่วนทรัมป์จะบริหารประเทศแบบซีอีโอบริหารบริษัทหรือไม่ นั้น ดร. วิบูลย์พงศ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้

ด้าน ดร.ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาการระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่าทรัมป์อาจจะบริหารประเทศคล้ายกับที่เขาทำธุรกิจ โดยความสัมพันธ์กับประเทศไทยจะไม่ได้อยู่บนฐานของความเป็นมิตร แต่จะขึ้นกับการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของสหรัฐ

ทรัมป์เป็นคนที่คาดเดาไม่ได้

สิ่งหนี่งที่นักวิเคราะห์ทั้งในไทยและต่างประเทศเห็นตรงกันคือ ทรัมป์เป็นคนที่คาดเดาไม่ได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในด้านการต่อรองผลประโยชน์

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลักกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ทรัมป์ตรงกับคำนิยามของนักวิชาการทั้งหลายและคนทั้งโลกที่ว่า “คนอย่างทรัมป์เป็นคนที่คาดเดาไม่ได้”

ทรัมป์เลือกแต่งตั้งคนภักดีส่อต้องการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ

การเสนอชื่อแต่งตั้งบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ปัจจจุบันเริ่มส่อว่า เขาอาจจะรวบอำนาจ เพราะเขาเสนอแต่งตั้งคนที่ภักดีต่อเขามาดำรงตำแหน่งสำคัญหลายคน แม้ว่าคนภายนอกจะมองว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสม เช่น สส. แมตต์ เกตซ์ ที่ทรัมป์เสนอแต่งตั้งเป็น รมว.ยุติธรรม แม้จะมีภาพพจน์ที่เสียหายมาก คนกำลังจับตารอดูว่า สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันพรรคของทรัมป์เองจะโหวตสวนอำนาจทรัมป์ไม่ยอมรับการแต่งตั้งเกตซ์หรือไม่

นักวิเคราะห์หลายมองว่า การเสนอแต่งตั้งกลุ่มคนภักดีต่อเขาก็เพื่อให้ทำตามที่เขาสั่งเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่า ทรัมป์จะบริหารแบบเผด็จการตามที่หลายคนเคยตั้งข้อสังเกตไว้ โดยเฉพาะในห้วงเวลา 4 ปีของทรัมป์ 2.0 ที่พรรครีพับลิกันชนะ การเลือกตั้งทั้งประธานาธิบดีซึ่งเป็นตำแหน่งฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติโดยได้ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่าง