‘สหรัฐ’ จองพร้อมจ่ายซื้อ ‘วัคซีนโควิด’ 2 พันล้านดอลล์
รัฐบาลสหรัฐ ติดต่อบริษัทยายักษ์ใหญ่ "ไบโอเอ็นเทค - ไฟเซอร์" จองซื้อวัคซีนโควิด-19 หากได้ผลดี พร้อมจ่ายมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์
รัฐบาลสหรัฐสั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จากบริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ของโลกหลายแห่งที่กำลังพัฒนาวัคซีน จำนวน 100 ล้านชุด คิดเป็นมูลค่าเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ คาดว่าน่าจะสามารถจัดส่งได้เดือน ธ.ค.นี้
รัฐมนตรีกระทรวงการบริการสุขภาพและมนุษย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ หากมีการพิสูจน์ชัดเจนว่า วัคซีนปลอดภัยและได้ผล สหรัฐก็อาจจะสั่งซื้อเพิ่มเติมอีก 500 ล้านชุด ขณะที่ทางบริษัทผู้ผลิตยาอย่าง ไฟเซอร์ อิงค์ และไอโอเอ็นเทค ต่างก็ประกาศว่า ข้อตกลงกับกระทรวงและกระทรวงกลาโหม เป็นในส่วนของวัคซีนที่ทางบริษัทกำลังร่วมกันพัฒนา
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในข้อตกลงที่ทางการจัดทำกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนหลายๆ รายได้ทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “วัคซีค ปฏิบัติการวาร์ป สปีด” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ซึ่งสนับสนุนให้มีการพัฒนาวัคซีนหลายตัวพร้อม ๆ กัน โครงการนี้มีเป้าหมายให้มีการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ที่ปลอดภัยและได้ผล 300 ล้านชุดภายในเดือน ม.ค. ปีหน้า
ภายใต้แนวความคิดริเริ่มนี้ รัฐบาลจะเร่งการพัฒนาและจัดซื้อวัคซีน ก่อนที่การทดสอบขั้นสุดท้ายจะเสร็จสมบูรณ์ เพื่อว่าเมื่อทางองค์การอาหารและยาสหรัฐ อนุมัติให้ใช้พวกมันได้เป็นการฉุกเฉิน วัคซีนก็จะอยู่ในมือของแพทย์ และสามารถนำออกมาใช้ได้ทันที
จอห์น เบิร์กฮาร์ดท์ รองประธานอาวุโสของไฟเซอร์ อิงค์ เปิดเผยเกี่ยวกับผลการทดสอบวัคซีนของบริษัทในขั้นเริ่มต้นว่า ข้อมูลที่บริษัทมีในตอนนี้ก็คือวัคซีน ตอบสนองต่อเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสอย่างเข้มแข็ง ทางบริษัทบอกว่า ประชาชนชาวอเมริกัน สามารถมารับการฉีดวัคซันได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ปัจจุบัน ทางไฟเซอร์กำลังเสร็จสิ้นการทดสอบวัคซีนในขั้นต้น เพื่อดูว่าวัคซีนตัวไหน จากทั้งหมด 4 ตัว ที่จะถูกนำไปทดสอบในระดับที่กว้างกว่า ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายต่อไป โดยทางบริษัทมองกันว่า เร็วทีสุด วัคซีนจะได้รับการอนุมัติก่อนปลายปีนี้