รู้จัก 9 อภิมหาเศรษฐีรวยเพราะวัคซีนโควิด

รู้จัก 9 อภิมหาเศรษฐีรวยเพราะวัคซีนโควิด

กลุ่มรณรงค์ยกเลิกสิทธิบัตรเผยข้อมูลก่อนประชุมผู้นำสุขภาพโลก จี20 ระบุ ตั้งแต่โควิด-19 ระบาดมีบุคคลอย่างน้อย 9 คนมั่งคั่งกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีรายใหม่ ผลจากบริษัทยาผูกขาดวัคซีนจนกำไรล้น

กลุ่มพันธมิตรวัคซีนของประชาชน ซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรและนักเคลื่อนไหวรณรงค์ให้ยุติกรรมสิทธิ์และสิทธิบัตรวัคซีนแถลงวานนี้ (20 พ.ค.) อ้างข้อมูลมหาเศรษฐีจากนิตยสารฟอร์บส (Forbes Rich List) ระบุว่า อภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ทั้ง 9 คน มีความมั่งคั่งสุทธิรวมกัน 1.93 หมื่นล้านดอลลาร์ มากพอฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนในประเทศรายได้ต่ำ 1.3 ครั้ง

ขณะเดียวกันประเทศรายได้ต่ำเหล่านี้กลับได้รับวัคซีนเพียง 0.2% ของอุปทานโลก เพราะวัคซีนขาดแคลนอย่างมาก ทั้งๆ ที่ประเทศรายได้ต่ำมีประชากรอาศัยอยู่ถึง 10% ของประชากรโลก

นอกเหนือจากสร้างอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่แล้ว ยังมีเศรษฐีพันล้านหน้าเดิมอีก 8 คน ที่มีพอร์ตการลงทุนในวัคซีนโควิด-19 มากมาย มั่งคั่งรวมกันเพิ่มขึ้น 3.22 หมื่นล้านดอลลาร์ มากพอที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากรทุกคนในอินเดียได้

เศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ที่มั่งคั่งจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 เรียงลำดับตามสินทรัพย์สุทธิ เริ่มต้นจาก สเตฟาน แบนเซล ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) โมเดอร์นา มั่งคั่ง 4.3 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วย อูกูร์ ซาฮิน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งไบออนเทค 4 พันล้านดอลลาร์ ทิโมธี สปริงเกอร์ นักภูมิคุ้มกันวิทยาและนักลงทุนก่อตั้งโมเดอร์นา 2.2 พันล้านดอลลาร์

นูบาร์ อาเฟยัน ประธานโมเดอร์นา 1.9 พันล้านดอลลาร์ ฮวน โลเปซ เบลมอนเต ประธานอาร์โอวีไอ บริษัทผลิตและบรรจุวัคซีนให้โมเดอร์นา มั่งคั่ง 1.8 พันล้านดอลลาร์

โรเบิร์ต แลงเกอร์ นักวิทยาศาสตร์และนักลงทุนผู้ก่อตั้งโมเดอร์นา มั่งคั่ง 1.6 พันล้านดอลลาร์

จู เถา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานคณะนักวิทยาศาสตร์แคนซิโน ไบโอโลจิกส์1.3 พันล้านดอลลาร์ ฉี ตงซู ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานอาวุโสแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ 1.2 พันล้านดอลลาร์ และเหมา ฮุ่นหัว ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานอาวุโสแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ 1 พันล้านดอลลาร์

ส่วน 8 อภิมหาเศรษฐีที่รวยขึ้น ได้แก่ เจียง เหรินเจิงและครอบครัว ประธานบริษัทจี้เฟย ไบโอโลจิคอล มั่งคั่ง 2.44 หมื่นล้านดอลลาร์ ไซรัส ปุณวัลลา ผู้ก่อตั้งสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์

เซี่ยปิง จากซิโนฟาร์ม 8.9 พันล้านดอลลาร์ อู๋ ก้วนเจียง ผู้ร่วมก่อตั้งจี้เฟย ไบโอโลจิคอล 5.1 พันล้านดอลลาร์

โทมัส สตรูอิงแมนและครอบครัว -แอนเดรียส สตรูอิงแมนและครอบครัว ผู้ลงทุนหลากหลายรวมทั้งในบริษัทไบออนเทคของเยอรมนีและเมกาฟาร์มาของอุรุกวัย มั่งคั่งรายละ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์

ปัญกาจ พาเทล ควบคุมคาดิลา เฮลธ์แคร์ บริษัทจดทะเบียนที่ตอนนี้ผลิตยารักษาโควิด-19 หลายตัว เช่น เรมดิซิเวียร์จากจีเลียด ส่วนไซคอฟดี วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของคาดิลาเฮลธ์แคร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองทางคลินิกพาเทลมั่งคั่ง 5 พันล้านดอลลาร์

แพทริก ซุน-เฉียง บริษัทอิมมูนิตีไบโอของเขาได้รับเลือกให้มาทำโครงการ“Operation Warp Speed” ของรัฐบาลสหรัฐเพื่อเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 แพทริกมั่งคั่ง 7.5 พันล้านดอลลาร์

นักเคลื่อนไหวจากพันธมิตรวัคซีนของประชาชน ที่มีสมาชิกเช่น กลุ่มโกลบอลจัสติสนาว องค์กรการกุศลออกซ์แฟม และยูเอ็นเอดส์ ช่วยกันวิเคราะห์ข้อมูลความมั่งคั่งของนิตยสารฟอร์บส เพื่อตอกย้ำว่า ความมั่งคั่งมหาศาลกำลังตกอยู่ในมือคนไม่กี่คนจากวัคซีนที่ส่วนใหญ่มาจากเงินทุนสาธารณะ

แอนนา แมริออต ผู้จัดการด้านนโยบายสุขภาพของออกซ์แฟม กล่าวว่า บทพิสูจน์ถึงความล้มเหลวร่วมกันในการควบคุมโรคร้ายนี้คือ โลกได้สร้างอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องการความปลอดภัยไม่ได้

“เศรษฐีพันล้านเหล่านี้คือโฉมหน้าของคนที่ได้กำไรมหาศาล บริษัทยาหลายแห่งกำลังผูกขาดวัคซีนที่พวกเขามี วัคซีนเหล่านี้ได้ทุนมาจากเงินสาธารณะ จึงควรเป็นสินค้าสาธารณะแก่ทั่วโลก่อน ไม่ใช่เปิดโอกาสให้เอกชนหากำไร เราต้องการให้ยุติการผูกขาดนี้ทันทีเพื่อเราสามารถผลิตวัคซีนเพิ่มขึ้นแล้วราคาถูกลง สามารถฉีดได้ทั้งโลก” แมริออตกล่าว

เว็บไซต์ออกซ์แฟมรายงานว่า อภิมหาเศรษฐีวัคซีนกำลังถูกสร้างขึ้นจากการที่บริษัทวัคซีนมีอำนาจผูกขาดทำให้ราคาหุ้นบริษัทยาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความคาดหวังว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะทำกำไรได้มหาศาล การผูกขาดยังเปิดช่องให้บริษัทยาควบคุมอุปทานและราคาวัคซีนทั้งหมด ดันให้กำไรของพวกเขาสูงขึ้นไปอีกขณะที่ประเทศยากจนเข้าถึงวัคซีนได้ยากขึ้น

งานวิจัยชิ้นนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุมผู้นำสุขภาพโลก G20 จะจัดขึ้นในวันศุกร์ (21 พ.ค.) ที่กรุงโรม อิตาลี ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกทรัพย์สินทางปัญญาของวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นการชั่วคราว เพื่อส่งเสริมการผลิตวัคซีนในประเทศกำลังพัฒนา แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีน

“วัคซีนประสิทธิภาพสูงที่เรามีได้มาจากเงินภาษีก้อนใหญ่ของประชาชน จึงไม่ยุติธรรมถ้าบุคคลใดจะร่ำรวยขณะที่ประชาชนหลายแสนคนต้องเผชิญกับโควิดระลอก 2 ระลอก 3 โดยไม่ได้รับการปกป้อง แต่ละวันมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนในอินเดีย ช่างน่ารังเกียจยิ่งที่เอาผลประโยชน์ของอภิมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทยาใหญ่ๆ มาก่อนความจำเป็นของผู้คนนับล้าน” ไฮดี โชว์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวางแผนและรณรงค์จากโกลบอลจัสติสนาว ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลแสดงความเห็น

หลายวันก่อนสหรัฐสนับสนุนข้อเสนอของแอฟริกาใต้และอินเดียที่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ให้ระงับการผูกขาดไว้ชั่วคราวแล้วยกเลิกสิทธิบัตรวัคซีนโควิด-19 ความเคลื่อนไหวนี้ได้รับการสนับสนุนจากประเทศกำลังพัฒนากว่า 100 ประเทศ สเปนก็เพิ่งประกาศสนับสนุน เช่นเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปา ผู้นำโลกและเจ้าของรางวัลโนเบลกว่า 100 คน

ด้านผู้ผลิตวัคซีนย้ำว่าการคุ้มครองสิทธิบัตรไม่ใช่ปัจจัยจำกัดการเร่งผลิตวัคซีน แต่สาเหตุมีอยู่มากมายตั้งแต่การตั้งโรงงานผลิต การจัดหาวัตถุดิบ ไปจนถึงความพร้อมของบุคลากรผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม