จับจังหวะ Spin-off | ต้องหทัย กุวานนท์
การที่บริษัทยายักษ์ใหญ่หลายบริษัท Spin-off ธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์ ออกมาจากธุรกิจหลักและนำเอาบริษัทที่แยกตัวออกมาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กำลังกลายเป็นสูตรสำเร็จที่ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างเส้นทางการเติบโตใหม่
ล่าสุด ซาโนฟี่ ผู้นำในผลิตภัณฑ์ยาเบาหวานและหลอดเลือด ได้เดินตามรอย จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และ แกล็กโซ่สมิทไคลน์ โดยแยกธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์ที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและยาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยา ออกจากธุรกิจยาหลักของบริษัท โดยมีเป้าหมายที่จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปลายปี 2567
การปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อแยกธุรกิจที่มีมาร์จินต่ำออกจากธุรกิจมาร์จินสูง คือ ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโมเดล “แตกเพื่อโต” ของหลายบริษัทในช่วงนี้ มูลค่าหุ้นของธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์ ที่แยกตัวออกมาต่างประสบความสำเร็จในการเทรด
เช่น หุ้นบริษัท Kenvue ที่แยกออกมาจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน IPO เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ด้วยมูลค่าถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์
เช่นเดียวกันกับ GSK ยักษ์ใหญ่ธุรกิจยาอีกรายที่แยกธุรกิจเพื่อสุขภาพ Haleon ออกมาด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่อย่างไบเออร์ก็กำลังวางแผนที่จะแยกธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์หรือเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรออกจากธุรกิจยา
แนวโน้มการ Spin-off ธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์ของยักษ์ใหญ่ในกลุ่มธุรกิจยากำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันยังเหลือแค่ไม่กี่บริษัทในโลกที่ยังคงมีทั้งธุรกิจยาและธุรกิจคอนซูเฮลท์อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน
ซีอีโอหลายบริษัทในธุรกิจยาที่ยังคงมีกลุ่มธุรกิจคอนซูเฮลท์อยู่ในพอร์ตโฟลิโอ กำลังถูกกดดันอย่างหนักจากนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ตัดสินใจแยกธุรกิจอื่นออกมาจากธุรกิจยา
บางบริษัทนักลงทุนถึงขั้นส่งสัญญาณว่าต้องรีบเปลี่ยนซีอีโอถ้ายังไม่ดำเนินการ Spin-off เมื่อมองในเชิงกลยุทธ์ การสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจและการลดความเสี่ยงทางการเงิน คือเหตุผลหลักของการตัดสินใจแยกเพื่อโต ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง การคงไว้ซึ่งโครงสร้างธุรกิจแบบเดิมๆที่ใหญ่เทอะทะ จะทำให้องค์กรทั้งองค์กรอยู่ภายใต้ความเสี่ยงทางการเงิน
แต่ถ้ามองในมุมของการบริหารจัดการธุรกิจ ธุรกิจที่มีความเปราะบางในด้านภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นอย่างธุรกิจยา การแยกธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์ไปอยู่ภายใต้หลังคาบ้านใหม่ ก็คือการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างดี ที่จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจหลัก
เช่น กรณีฟ้องร้องบางคดีที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อย่างเช่น แป้งเด็กจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ถึงแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนเล็กมากเมื่อเทียบกับธุรกิจทั้งหมด ก็ยังสามารถสร้างความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของบริษัท
การแยก Kenvue ออกมาเป็นร่มเงาใหม่ให้กับธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์ ก็จะช่วยทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะและลดการเชื่อมโยงธุรกิจกลุ่มที่เป็นแมสกับธุรกิจยาหลักที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและการวิจัยและพัฒนาขั้นสูง
ในที่สุดแล้ว การ spin-off คือ ทางออกที่ดีที่สุดขององค์กรขนาดใหญ่ เพราะการปล่อยให้บริษัทที่แยกออกมาสามารถสร้างโมเดลธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างอิสระ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเร่งการเติบโตให้กับธุรกิจใหม่และยังช่วยปลดล็อกข้อจำกัดเรื่องทรัพยากรและเงินทุนโดยไม่ต้องไปแข่งขันแย่งชิงกับธุรกิจหลักที่มักจะมียอดขายและมาร์จินสูงกว่า