ททท.ดันต่างชาติใช้จ่ายอาหารแตะ 40%

ททท.ดันต่างชาติใช้จ่ายอาหารแตะ 40%

ททท.ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้อาหารจากการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวแตะ 35-40% เปิดโครงการอาหารถิ่นปูพรมชู 25 เมนูกระจายทั่ว 5 ภาค

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากแนวทางการตลาดหลักของ ททท.ที่วางแผนในปีงบประมาณปี 2560 ต้องการกระตุ้นค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวให้เติบโตมากกว่าการเติบโตเชิงปริมาณ ทำให้ทททงได้วางกลยุทธ์เพื่อเตรียมส่งเสริมให้การใช้จ่ายด้านอาหารถิ่น เป็นกลไกหลักเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เริ่มต้นด้วยการเปิดโครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่นภายใต้ชื่อ“สุขใจช่วยกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด” เพื่อส่งเสริมอาหาร 25 เมนูเด่นจาก 5 ภูมิภาค รวม 29 จังหวัด และพัฒนามาตรฐานสุขอนามัยคู่ขนานกันไปด้วย 

โดยททท.จะ กำหนดหลักเกณฑ์และมอบตราสัญลักษณ์ให้กับร้านอาหารที่มีมาตรฐานด้านวัตถุดิบ รสชาติ และความสะอาด นอกจากนั้น ได้ผนวกเอาเมนูพิเศษ 6 อย่างที่คณะทำงานประชารัฐได้กำหนดผ่านโครงการอะเมซิ่ง ไทย เทสต์ ได้แก่ ผัดไทย, ต้มข่าไก่, ต้มยำกุ้ง, แกงมัสมั่น, ส้มตำ และแกงเขียวหวาน ซึ่งมีแผนการส่งเสริมระดับประเทศไปแล้ว ก่อนหน้านี้ไว้ด้วย ทำให้มีเมนูหลักรวมกว่า 31 เมนู ที่พร้อมจะผลักดันให้มีชื่อเสียงในระดับโลกมากขึ้น

ทั้งนี้ ด้วยการรวมตัวโปรโมตดังกล่าว คาดว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้จากการรับประทานอาหารของนักท่องเที่ยวที่เคยอยู่ที่ 20-30% เพิ่มเป็น 35-40% เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีแรงจูงใจจากการรับรู้เมนูท้องถิ่นที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังหวังผลจากการพักแรมมากขึ้น เพราะการรับประทานอาหารตามวิถีของท้องถิ่นบางอย่างให้ได้ประสบการณ์ที่ถูกต้อง อาจจะต้องรับประทานในมื้อเย็น

นายยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ททท.มั่นใจว่า ปีนี้รายได้ท่องเที่ยวมีโอกาสสูงถึง 2.58 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 2.41 ล้านล้านบาท โดยหลังจากการลงประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญได้เสียงส่วนใหญ่ คาดว่าจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองราบรื่นไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปี และเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งในปี 2560 ตามที่รัฐบาลได้วางไว้ ซึ่งจะมีผลต่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก