กางแผนโต Super Trader Holdings

การตัดสินใจหันหลังให้กับธุรกิจร้านทองของครอบครัวสู่สังเวียนตลาดหุ้นอย่างเต็มตัวในปี 2551 ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ผลักดัน “กระทรวง จารุศิระ” ผู้ก่อตั้ง Super Trader Holdings ให้เดินมาถึงก้าวที่ใหญ่กว่าเดิมในวันนี้

 จากคนที่บริหารร้านทอง สู่ผู้ให้ความรู้เรื่องหุ้นไปจนถึง สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ตลาดหุ้นไทย2556

 รวมถึงผลงานการันตีกับพอร์ตเทรดหุ้นจากหลักแสน สู่ 9 หลักในปัจจุบัน

 ทุกก้าวเล็กๆ ที่กล่าวมาล้วนเป็นการสะสมหลักไมล์ที่เรียกว่า “เร็ว”กว่าที่คาดเอาไว้

 “ผมเชื่อเรื่องการลงมือทำ คิดแค่ว่า สิ่งนั้นทำแล้วจะดี ต้องลองดู จากนั้นค่อยกว่ากันว่าเป็นอย่างไร”

Super Trader Thailandหนึ่งในโครงการที่เริ่มต้นจากความคิดที่ว่า “ทำอย่างไรจะให้วงการนี้คึกคัก” ที่สุดก็ดีไซน์ออกมาเป็นกิจกรรมค้นหาสุดยอดเทรดเดอร์ที่เก่งที่สุดในประเทศไทยผ่านรูปแบบรายReality Showเป็นเวลากว่า6เดือน เพื่อชิงเงินรางวัล1 ล้านบาทโดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นนักลงทุนรายย่อยที่จะเข้ามาประชันฝีมือ

 ซีซั่นแรก เริ่มขึ้นในปี 2557 ต่อเนื่องถึงซีซั่น 3 โดยที่ กระทรวง คาดหวังว่าจะมีกิจกรรมนี้ไปเรื่อยๆ

“แรกๆ เกิดจากความคิดสนุกๆ ไม่ได้มองเรื่องเงิน แค่ว่าทำอย่างไรวงการนี้จะคึกคักขึ้นมา”

จนถึงวันนี้Super Trader Thailandได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญภายใต้โฮลดิ้งส์ที่จัดตั้งขึ้น

ในส่วนของSuper Trader Thailandยังมี 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ Super Trader Republic ทำงานในเรื่องของการอบรมให้ความรู้

อีกส่วนคือ Super Trader International ที่ได้เริ่มลุยเปิดธุรกิจแล้วที่สิงคโปร์ พร้อมด้วยเป้าหมายที่จะไปให้ได้ไกลกว่านั้น

Stock Quadrantหนึ่งในธุรกิจที่ก้าวเข้าสู่สนามFintechอย่างเต็มรูปแบบ นำทัพด้วยApplicationและ เว็บไซต์ ที่เตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“โปรแกรมตัวนี้เกิดจากการที่ผมเป็นคนเล่นหุ้นVI มาตั้งแต่2546 ได้อ่านหนังสือจากอาจารย์หลายท่าน ในขณะที่ตัวผมเองก็เรียนมาทางด้านบัญชี การเงิน ทำให้วิเคราะห์งบเป็น

 แต่จากประสบการณ์แล้วเห็นว่าทุกวันนี้การเทรดหุ้นโดยใช้การวิเคราะห์การเงินอย่างเดียวไม่พอ เราต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้ส่วนใหญ่คนใช้Technical analysisซื้อขายตามกราฟ แต่ข้อเสียคือ ซื้อตามกราฟ แต่ไม่รู้พื้นฐานบริษัท บางทีหุ้นปั่น กราฟขึ้นจริง แต่มาจากการกระทำของใครก็ไม่รู้ ถ้าstop lossไม่เป็นก็แย่”

โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นนี้จะเป็นการเอากราฟ และvalueinvestingมาผสมกัน แล้วอธิบายว่าหุ้นตัวนั้นเป็นอย่างไร โดยวิเคราะห์fundamentalและtechnicalอย่างละเอียด

โมเดลนี้ กระทรวง ย้ำว่า ผมใช้มาตลอด 14 ปี ของการลงทุนของผมที่พิสูจน์ได้จากพอร์ตหลักแสน สู่ 9 หลักในวันนี้

“ผมเชื่อมั่นว่าคนที่เข้าใจ Stock Quadrant อย่างจริงจัง ต่อไปจะเป็นนักลงทุนที่รอบจัดFundamentalได้Technicalได้ จะรู้ในแบบที่ผมรู้เลย”

สำหรับการทำตลาด Stock Quadrant ในไทย มองไว้ที่การขาย มากกว่า แจกให้ใช้ฟรี

Business modelจะรันอย่างไร สมมติค่าสมาชิกเดือนละหลักร้อย กับไม่จ่ายเลย แต่functionใช้งาน ไม่แตกต่างกัน คนส่วนใหญ่จะเลือกที่จะไม่จ่ายเงินมากกว่า

ตลาดหุ้นในไทยยังเป็นNiche Marketดังนั้นคนที่จะใช้โปรแกรมนี้ต้องเป็นกลุ่มที่Niche of Niche Market

เราอยากสตาร์ท fintechมาก็อยากให้อยู่ได้ ในราคาที่ยุติธรรม"

สำหรับตลาดในไทยผมคิดว่า คนตอบรับจะมีในระดับหนึ่งก็ดีใจแล้ว แต่ก็มองเอาไว้ว่าโมเดลนี้จะนำไปใช้ในตลาดระดับโกลบอลมากกว่า

ที่ผ่านมา เราไปเปิดบริษัทที่สิงคโปร์เอาไว้ ทำเอง ลงทุนเองทั้งหมด ทั้งนี้อาจร่วมมือกับพันธมิตรช่วยเรื่องการขยายตลาดให้

จากนั้นมองตลาดญี่ปุ่นเอาไว้ เพราะมีพันธมิตรอยู่ที่นั่น

แต่ท้ายที่สุดแล้ว อยากจะเห็น Stock Quadrant ไปใช้ในตลาดหุ้นทั่วโลก เป็น vision ที่เราวางไว้ซึ่งจะได้เห็นอย่างแน่นอน”

อีกหนึ่งธุรกิจภายใต้ โฮลดิ้งส์ นี้ก็คือSuper Company

เป็นรูปแบบของบริษัทร่วมทุน โดยตกลงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อีกราย เพื่อสร้างโปรเจ็ค นี้ขึ้นมา

แนวทางคือผมจะเปิดรายการทีวีรับบริษัทต่างๆ จากทั่วประเทศที่มีแนวโน้มดี แต่อาจติดปัญหาในเรื่องของเงินลงทุน

“หลายบริษัทมีผลประกอบการที่ดี แต่อาจติดเรื่องหนี้กับสถาบันการเงิน หรือ จะกู้แบงก์แล้วต้องมีหลักประกัน รู้ทั้งรู้ว่าตลาดโตได้ แต่ไม่มีหลักประกัน

ธุรกิจที่คิดว่า เจ๋งจริงให้เดินมาหาเรา ซึ่งจะมองถึงกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์การเติบโตที่ดี หากเราใส่เงินเข้าไปเลย 100 ล้านแล้วไปขยายตลาด จากนั้นก็เข้าตลาดหลักทรพัย์”

รูปแบบไม่ต่างกับ Venture Capital กองทุนนี้มาจาก 2 ส่วนด้วยกัน คือ ผม และ พาร์ทเนอร์อีกราย

สิ่งที่ กระทรวง มองหาก็คือ Success Business เท่านั้น

“วัดจากงบการเงิน ผมมีทีมFAที่จะไปตรวจสอบ ว่า paper ที่ส่งมาว่าจริงมั้ย

การใส่เงินเข้าไปก็คล้ายๆ กับสตาร์ทอัพ เพียงแต่สตาร์ทอัพเป็นโมเดลวัดดวง ถ้าได้จะเป็น 100 เท่าแต่ถ้าไม่ได้ก็อาจเป็นศูนย์ แต่หากทำในแบบที่คิดไว้ การทำงานอาจจะหนักมากในช่วงแรก แต่เพราะเชื่อว่าบริษัทดีๆ ในไทยมีเยอะ และเราก็อยากมีส่วนในการผลักดันบริษัทเหล่านั้นเข้าตลาดหลักทรัพย์

จากที่คิดเอาไว้ แนวทางนี้จะได้ประโยชน์ทั้งกับตัวบริษัทเอง เราในฐานะนักลงทุน ตลาดหลักทรัพย์เองก็แฮปปี้”

นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ขาธุรกิจ นั่นคือ Super Trader Republic และ Personal Finance Learning Foundation

Super Trader Republic ดำเนินงานในรูปแบบของ Co-trading Space ให้บริการลักษณะพื้นที่และคำปรึกษาด้านการลงทุน ตั้งอยู่อาคารเอ็มไพร์ สเตท ชั้น19C

“ผมอยากสร้างสังคมตรงนี้ขึ้นมา เชื่อว่า ทุกอย่างในโลกนี้ต้องมีหลักการรองรับ”

ทุกวันนี้สมาชิกแล้วประมาณ 350 คน อายุ 20-40 ปี แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่านั้นคือ เริ่มมีคนอายุเกิน 60 ปีเข้ามา ส่วนหนึ่งเพราะคนเราอายุยืนขึ้น เงินที่เก็บมาเพื่อการเกษียณมีแต่อาจไม่พอ ก็ต้องหาทางลงทุนเพื่อกำไร

ในส่วนของ Personal Finance Learning Foundation มูลนิธิที่ใช้เงินส่วนตัวมาลงเพื่อการพัฒนาความรู้ด้านการออม และบริหารเงิน

“วันนี้ผมสำเร็จ มีเงิน บริษัทมั่นคง ก็คิดว่าอยากคืนอะไรให้สังคม

คนในประเทศเราส่วนใหญ่ยังยากจน สาเหตุที่ยากจน ไม่ใช่เพราะโง่ แต่เพราะไม่รู้ หลายคน ไม่เคยมีโอกาสได้เรียนรู้ ซึ่งกิจกรรมที่จะใส่เข้าไปคือการสอนให้รู้จักการออม รายรับจ่าย และการลงทุนที่ถูกต้อง”

การเดินทางของ Super Trader Holdings ที่ผ่านมา กระทรวง บอก โตเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ส่วนหลักๆ มาจากทีมงาน

“ทั้งกลุ่มโตเร็ว เพราะทีมงานที่ดี ที่เก่งและดี ลำพังผมคนเดียวทำไม่ได้

ผมให้ความสำคัญกับคนดี มากกว่าคนเก่งด้วยซ้ำ รู้สึกว่าโตเร็วเกินฝัน ไม่คิดว่ามาได้ไกลขนาดนี้

ด้วยทิศทางอนาคต แน่นอนว่าเราอยากจะสำเร็จ แค่บางโปรเจ็ค อาจแค่ให้ไม่เจ๊ง ขอให้เลี้ยงตัวเองได้ก็พอแล้ว เช่นSuper Trader Thailand

ขณะที่ Stock Quadrant จะเป็นแพลตฟอร์มที่ไปได้ทั่วโลก

ผมมองใหญ่ ไม่ใช่มองเล็ กอยากให้ดาวน์โจนส์ได้ใช้โปรแกรมของเรา

ส่วนSuper Companyที่เราจะเป็นเซ็นเตอร์สร้างบริษัทดีๆ เข้าตลาดหลักทรัพย์” กระทรวง กล่าวสรุป