คุ้ย‘ค่ายแดง’ พ่าย สว. ‘ส.กระเป๋าเงิน’ แพะรับบาป

KEY POINTS :

• นอกจากความเก่งกาจของ "ค่ายน้ำเงิน" แล้ว ความผิดพลาดของ "ค่ายแดง" ในปฏิบัติการเลือก สว. ส่งผลให้พ่ายแพ้ยับเยิน
• จุดอ่อนของ "ค่ายแดง" คือ การจัดวางกำลังพล "นายใหญ่" หวังซ่อนไพ่ปฏิบัติการลับในการเลือกระดับประเทศ แต่เอาเข้าจริงโหวตเตอร์มี "เจ้าของ" ปฏิบัติการลับจึงคว้าน้ำเหลว
• มีกระแสข่าวว่า "นายใหญ่" เลือกใช้บริการของ "ส.กระเป๋าเงิน" ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย และ "น้องชาย" นามสกุลเดียวกัน

ควันหลงเลือก 200 สว. ชุดใหม่ “ค่ายน้ำเงิน” เข้าวินยึดสภาสูง กุมเสียงข้างมาก เพราะมาจากมันสมองของ “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” มีทั้งระบบจัดตั้ง ระบบเกณฑ์คน วางเครือข่ายแนบเนียน จน “ค่ายส้ม-ค่ายแดง-ค่ายเขียว-กลุ่มทุน” สู้ไม่ได้

สำหรับสัดส่วน 200 สว. แบ่งเป็น สว.สายสีน้ำเงิน 123 คน คิดเป็นร้อยละ 61.50 สว. สายสีส้ม 18 คน คิดเป็นร้อยละ 9.00 สว.สายสีแดง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 6.00 สว.สายนายทุน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 สว.สายเขียวในป่าฯ 7 คน คิดเป็นร้อยละ 3.50 สว.สายอื่นๆ 32 คน คิดเป็นร้อยละ 16.00

ส่งผลให้แรงต่อรองทางการเมืองของ “ค่ายน้ำเงิน” พุ่งสูงปรี๊ด ท่ามกลางกระแสข่าว “หัวหน้าพรรคน้ำเงิน” มีโอกาสฝันไกลถึงเก้าอี้นายกฯ แม้หนทางจะยากลำบาก แต่แอ็กชันของเจ้าตัว เริ่มเห็นสัญญาณ เอาใจ “หัวขบวนอนุรักษนิยม”

แผน “ค่ายแดง” ที่หวังว่า “ค่ายน้ำเงิน” จะมีโอกาสถูกยุบพรรค จากคดีของ “อดีตเลขาฯพรรค” โยกย้ายหุ้นบริษัทของตัวเอง ก่อนจะนำเงินบางส่วนเข้ามาบริจาคให้พรรค หากเป็นตามที่คาดการณ์ “ค่ายแดง” จะอ้าแขนต้อนรับ สส.ค่ายน้ำเงิน เข้าสู่อ้อมอก

พร้อมทั้งวางเกมสำหรับการเลือกตั้งปี 70 จะกินรวบพรรคเดียวในพื้นที่ภาคอีสาน และฐานของ “ค่ายน้ำเงิน” เพื่อแก้แค้นเจ้าของวลี “มันจบแล้วครับนาย” ที่ยังฝังใจ “นายใหญ่” อยู่ทุกวันนี้

เมื่อ “ค่ายน้ำเงิน” ยึดสภาสูงได้ แม้ในเชิงบริหารอำนาจจะมีน้อยกว่า “ค่ายแดง” แต่การเป็นสภาตรายาง ไฟเขียวเลือกผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ย่อมถือไพ่ได้เปรียบ เอาไว้ใช้ต่อรองทางคดีได้ โดยเฉพาะ ป.ป.ช.

ดังนั้น ทิศทางการโหวตของ สว.จะไม่ต่างจากยุค “สองลุง” ที่มักจะมีไฟเขียวมาก่อนชื่อผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ถึงจะเข้าวิน      

หลังจากนี้อีก 4 ปี เกมของ สว. อาจจะถูกกดปุ่มมาจาก “บ้านใหญ่บุรีรัมย์”

สำหรับ “ค่ายแดง” ชั่วโมงนี้ โทษใครไม่ได้ เพราะ “นายใหญ่” ชะล่าใจ คิดว่าการจัดวางคนตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด จะคอนโทรลยาก จึงหวังใช้ยุทธวิธีปฏิบัติการลับในระดับประเทศทีเดียว 

ทว่า ผลสรุปกลับไม่ทันเกม “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” แม้ “ค่ายแดง” จะมีปฏิบัติการลับ แต่ไม่เป็นผล เพราะโหวตเตอร์มี “เจ้าของ” หมดแล้ว

ว่ากันว่า “นายใหญ่” ใช้บริการของ “ส.กระเป๋าเงิน" และ “น้องเลิฟ” นามสกุลเดียวกัน วางเกมปฏิบัติการลับ แต่สุดท้ายกลับคว้าน้ำเหลว

ทำให้เครดิตทางการเมืองของ “ส.” อดีตคนถือกระเป๋าเงินลดน้อยลงมาก แถมยังโดนคนพรรคก่นด่า เพราะใช้คนที่ไม่เคยลงสนามเลือกตั้งมาทำการใหญ่ จึงพ่ายศึกกลับบ้าน

หลังจากนี้ น่าจับตาย่างก้าวของ “สว.สีน้ำเงิน” จะมีแรงกดดัน กระทบชิ่งการทำงานของรัฐบาลมากน้อยเพียงใด เมื่อการกุมเสียงในสภาสูง ทำให้ “ค่ายน้ำเงิน” ที่สถานการณ์ร่อแร่ พลิกกลับมากุมความได้เปรียบ 

อย่างน้อย หาก “ค่ายแดง” จะบีบออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องคิดหนัก

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์