ปฏิรูปตำรวจ...ระวังเป็นกระทงหลงทาง!

จากกรอบการทำงานการปฏิรูปตำรวจ ที่เน้นไปในเรื่องโครงสร้าง อำนาจ และระบบการแต่งตั้งโยกย้าย ทำให้เกิดความกังวลว่านี่อาจเป็นปัญหาในเรื่องทิศทางการปฏิรูปหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็มีเสียงจากอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยเตือนว่า หากมุ่งแต่ปฏิรูปโครงสร้างจะหลงทาง เพราะเรื่องเร่งด่วนที่ควรปฏิรูปมากกว่าคือ “คน” ซึ่งก็หมายถึงคุณภาพของตำรวจทุกนายนั่นเอง

ขณะที่การแยกงานที่ไม่เกี่ยวกับตำรวจโดยตรงออกไป เช่น ตำรวจรถไฟ ตำรวจป่าไม้ ก็ดูจะเป็นประเด็นที่ “ชาวสีกากี” ไม่ค่อยจะเห็นด้วยมากนัก ทั้งๆ ที่เป็นต้นตอหนึ่งของการบริหารงานตำรวจ และการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบต่างๆ

จะว่าไปแล้ว การปฏิรูปตำรวจจะประสบความสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่เจตจำนงที่แน่วแน่ของฝ่ายการเมือง และการยอมรับของชาวสีกากีเอง เพราะที่ผ่านมาโมเดลปฏิรูปตำรวจแบบที่เรียกว่า “สมบูรณ์แบบ” ก็เคยมีการเสนอมาแล้วในรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์

ครั้งนั้นมีการตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบงานตำรวจขึ้นมา มี พลตำรวจเอก วศิษฐ เดชกุญชร เป็นประธาน เสนอแนวทางการพัฒนาระบบงานตำรวจ 10 ด้าน ทั้งกระจายอำนาจ เพิ่มอัตราค่าตอบแทน แยกสายงานตำรวจแบบมียศกับไม่มียศ ลดหน้างานของตำรวจในงานที่ไม่เกี่ยวกับอาชญากรรมพื้นฐานลงไป และที่สำคัญคือการสร้างให้สถาบันตำรวจเป็นศูนย์กลางการผลิตบุคลากรที่ช่วยงานตำรวจ เช่น งาน รปภ. งานจราจร หรืองานเฝ้าร้านทอง ซึ่งจะช่วยลดภาระของตำรวจอาชีพ ลดปัญหาการเรียกรับผลโยชน์ เงินนอกระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจมากขึ้นด้วย

แต่สุดท้ายข้อเสนอดีๆ เหล่านี้ก็ถูกพับไป และนี่คือความท้าทายของงานปฏิรูปตำรวจรอบใหม่ที่นำโดยทหารใหญ่อย่าง พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์