โนเบิลจ่อเปิดคอนโดริมแม่น้ำพร้อมอัดแคมเปญกระตุ้นยอดโค้งสุดท้าย
โนเบิล จ่อเปิด"นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ"คอนโดริมแม่น้ำ มูลค่า 4,650 ล้านบาท พร้อมอัดแคมเปญใหญ่ 6 โครงการพร้อมอยู่ กระตุ้นยอดโค้งสุดท้ายหลัง 9 เดือน กวาดยอดขายทะยาน 14,037 ล้านบาท โตพุ่ง 154% หรือเพิ่มขึ้น 8,500 ล้านบาท
นายศิระ อุดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4 โนเบิล ยังเดินหน้าเปิดอีก 2 โครงการใหม่ ได้แก่ "โครงการ โนเบิล เคิร์ฟ" ที่ เปิดขายไปแล้วช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 3,600 ล้านบาท ผ่านนิยามใหม่ URBAN HOME บ้านที่เป็นมากกว่าพื้นที่อยู่อาศัย ทำเลติดถนนใหญ่ เลียบทางด่วน เอกมัย รามอินทรา ราคาขายเริ่มต้นที่ 12.5-28.8 ล้านบาท พร้อมส่วนลดช่วง Pre-Sale สูงสุด 1 ล้านบาท* และล่าสุดคือโครงการ "นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ" ซึ่งเตรียมเปิดจองเร็ว ๆ นี้ โดยเป็นคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของบริษัท
พร้อมกันนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อก่อนที่จะหมดมาตรการ LTV บริษัทฯได้จัดแคมเปญใหญ่กระตุ้นยอดขาย บ้านและคอนโดพร้อมอยู่ใน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการโนเบิล บี ไนน์ทีน, โนเบิล แอมเบียนส์ สุขุมวิท 42, โนเบิล เกเบิล วัชรพล, นิว โคฟ นอร์ธ ราชพฤกษ์, นิว คอนเน็กซ์ เฮาส์ ดอนเมือง และนิว โนเบิล ศรีนครินทร์-ลาซาล ราคาขายเริ่ม 1.69 – 25 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นเซอร์ไพรส์ในแต่ละสัปดาห์ที่สำนักงานขายตั้งแต่ 1-20 พ.ย.นี้ มั่นใจว่าแคมเปญดังกล่าวจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในขณะนี้ และทำให้โนเบิลฯ กวาดยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
สำหรับช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.2565) ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยมีการฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ COVID ที่คลี่คลาย การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ และมาตรการรองรับจากทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่เข้ามาช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆให้แก่ผู้บริโภค ทั้งอัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ยังไม่ได้ปรับสูงขึ้นไปมากนัก ส่งผลให้ตลาดตอบรับเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีศักยภาพสูง อาทิ ทำเลใกล้รถไฟฟ้า หรือใกล้ห้างสรรพสินค้า และแหล่งรวมคอมมูนิตี้ต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับการที่โนเบิลฯ ได้เปิดพรีเซล (Pre-Sale) โครงการต่างๆ ไปในช่วงต้นปี ส่งผลให้มียอดขายในช่วง 9 เดือน เท่ากับ 14,037 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 154% หรือเพิ่มขึ้น 8,500 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการประสบความสำเร็จอย่างสูงทางด้านการขาย"
ทั้งนี้ ยอดขายหลักที่เกิดขึ้น มาจากโครงการซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีมาก กวาดยอดขายกว่า 50%-60% ของมูลค่าโครงการ เช่น โครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9, นิว เมกา พลัส บางนา, นิว อีโว อารีย์ และ โครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ซึ่งปิดการขายไปเรียบร้อยแล้วภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน