เปิด 14 ข้อตกลง หลัง 'พิสุทธิ์ ยงค์กมล' นำผบห.สารสาสน์ พบบิ๊กศธ. ยอมรับผิดชอบทุกกรณี

เปิด 14 ข้อตกลง หลัง 'พิสุทธิ์ ยงค์กมล' นำผบห.สารสาสน์ พบบิ๊กศธ. ยอมรับผิดชอบทุกกรณี

เปิด 14 ข้อตกลง ลูกผู้ก่อตั้้งโรงเรียนในเครือสารสาสน์ "พิสุทธิ์ ยงค์กมล" พร้อมผู้บริหาร เข้าหารือบิ๊กกระทรวงศึกษาธิการ ถกกว่า 4 ชม. ก่อนจะสรุปแนวทางการเยียวยา-ยอมรับผิดชอบทุกกรณี

วันนี้ที่กระทรวงศึกษาธิการ หลังจาก ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีคำสั่งเรียก นายพิสุทธิ์ ยงค์กมล ลูกชายของผู้ก่อตั้้งโรงเรียนในเครือสารสาสน์ พร้อมผู้บริหารของโรงเรียนในเครือฯ เข้าชี้เเจงแนวทางการเเก้ปัญหาเรื่องครูทำร้ายนักเรียน ก่อนทำข้อตกลงเป็นหนังสือ

หลังหารือนานกว่า 4 ชั่วโมง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ทำหนังสือข้อตกลง หลังผู้ปกครองทำข้อเสนอมายังกระทรวงศึกษาธิการ โดยทางโรงเรียนยืนยันความรับผิดชอบ เเบ่งเป็น 2 กรณีใหญ่

กรณีเเรก ทางฝ่ายผู้ปกครองในห้องเรียนของบุตรหลานที่ถูกกระทำและยังประสงค์จะให้บุตรหลานเรียนที่โรงเรียนต่อ

1.ห้องเรียนที่เกิดเหตุและห้องเรียนที่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจาก สภ.ชัยพฤกษ์ โรงเรียนพร้อมคืนค่าเทอมและค่าธรรมเนียมอื่น ปีการศึกษา 2563 ให้กับนักเรียนทุกคนที่อยู่ในห้องเรียนนั้น

2.เร่งติดกล้องวงจรปิดมุมต่างๆ ให้ครบถ้วน และให้มีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ ที่ผู้ปกครองสามารถนั่งดูได้ที่โรงอาหาร และหากห้องเรียนใดที่ผู้ปกครองตกลงกันได้ โรงเรียนจะจัดให้มีระบบออนไลน์

3.จัดทำป้ายชื่อครู แสดงภาพถ่าย เลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของครูทุกคนหน้าห้องเรียนทุกห้อง และเผยแพร่ในเว็บไซต์ของโรงเรียน

4.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในทางการแพทย์ทั้งร่างกายและจิตใจของนักเรียนที่ถูกกระทำ และได้รับผลกระทบในห้องเรียนที่เกิดเหตุ เต็มจำนวนที่จ่ายจริง

5.จัดให้มีนักจิตวิทยาไว้สำหรับเยียวยานักเรียนที่ได้รับผลกระทบ โดยจะมีการประเมินและส่งผลการประเมินให้กับผู้ปกครองทราบทุกภาคเรียน และได้ทำความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิต เพื่อเข้ามาฟื้นฟูและเยียวยาให้กับนักเรียนและครูโดยด่วน

6.ให้โรงเรียนอนุญาตให้ผู้ปกครองสามารถเข้าไปตรวจสอบสุขอนามัยห้องเรียน ห้องน้ำ ห้องนอน โดยต้องขออนุญาตและแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ธุรการก่อน ทั้งนี้ต้องไม่เป็นการรบกวนกิจกรรมการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตของนักเรียน

7.โรงเรียนจัดอาหารให้นักเรียนตามหลักโภชนาการ โดยจะแจ้งรายการอาหารให้กับผู้ปกครองทราบล่วงหน้าเป็นรายสัปดาห์ จัดให้มีบริการอาหารอย่างเพียงพอและทั่วถึง ตลอดทั้งช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร จาก 30 นาที เป็น 40 นาที

8.จัดให้มีการคัดกรองด้านสุขภาพจิตให้แก่ครูไทยและต่างชาติ

9.จัดระบบรถรับ-ส่ง ให้นักเรียนมีที่นั่งที่เพียงพอ และให้มีการติดตั้งกล้องเฉพาะตู้ที่นั่งโดยสาร เพื่อดูแลความปลอดภัยและเหตุอันไม่ควรที่จะเกิดระหว่างการเดินทาง และรายงานจำนวนเด็กนักเรียนที่ขาด ลา มาสายทุกวัน

10.จัดให้มีการประชุมผู้ปกครองของทุกระดับชั้น ทุกปีการศึกษา ในปีการศึกษา 2563 โดยเริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2563 นี้

กรณีที่ 2 การที่ผู้ปกครองประสงค์จะขอย้ายบุตรหลายไปเรียนต่อที่อื่น 

1.โรงเรียนพร้อมอำนวยความสะดวกในการทำเอกสารส่งตัวให้แก่นักเรียนที่ประสงค์จะขอย้าย ให้แล้วเสร็จมอบให้กับผู้ปกครองภายใน 1 วัน

2.คืนค่าธรรมเนียมการศึกษา และค่าธรรมเนียมอื่นในปีการศึกษา 2563

3.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในทางการแพทย์ทั้งร่างกายและจิตใจของนักเรียนที่ถูกกระทำหรือผลกระทบในห้องเรียนที่เกิดเหตุเต็มจำนวนที่จ่ายจริง

4.ค่าชดเชยหรือค่าบำรุงขวัญ โรงเรียนจะเร่งดำเนินการให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียนพิจารณาและแจ้งความคืบหน้าโดยด่วน

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่ิอเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหา โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต ผู้แทนจากาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นิติกรสำนักงานปลัดกระทรวงฯ ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนศึกษาธิการจังหวัด โดยมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามเเก้ไขปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งนักเรียนเเละผู้ปกครองตามยันทึกข้อตกลงร่วมระหว่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ และ กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมให้รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยฯ

ผู้บริหารเครือสารสาสน์ เปิดใจขอโทษผู้ปกครอง

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ กระทรวงศึกษาธิการ ดร.พิสุทธิ์ ยงค์กมล และ ดร.สุทธิพงศ์ ยงค์กมล ทีมผู้บริหารเครือโรงเรียนสารสาสน์ แถลงเปิดใจกรณีครูทำร้ายนักเรียน หลังทาง ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เรียกเข้าพบเพื่อหารือกันตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

ดร.พิสุทธิ์ ยงค์กมล กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ผู้บริหารรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในโรงเรียน ที่ผ่านมาโรงเรียนสารสาสน์ มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน ในเรื่องนโยบายการต่อต้านการกลั่นแกล้งในโรงเรียน (บูลลี่) เบื้องต้น ต้องขอโทษผู้ปกครอง และสังคมอีกครั้ง และจะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น ขอแก้ไขทุกอย่าง โดยจะไม่แก้ตัว

ดร.พิสุทธิ์ ยืนยันจะแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจอย่างตรงไปตรงมาเสมือนว่าพวกเราเป็นผู้ปกครอง โดยทุกข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการวันนี้จะนำไปปฏิบัติช่วยเหลือแก้ไข และพร้อมรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง โดยได้สั่งการให้โรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้งหมด จัดตั้งศูนย์ร้องเรียนที่ห้องธุรการ จะมีการปรับระบบคุณภาพของการบริหารโรงเรียน รวมถึงบุคคลากรให้มีธรรมาภิบาล รวมถึงจะมีการตรวจสุขภาพจิตของครูผู้สอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ส่วนกรณีที่นายพิบูลย์ ยงค์กมล ผู้ก่อตั้งเครือสารสาสน์ ให้สัมภาษณ์รายการหนึ่งจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงนั้น ดร.พิสุทธิ์ ระบุว่า อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด เนื่องจากเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จึงอาจทำให้เสียงไม่ชัดเจน โดยนายพิบูลย์ ไม่ได้มีเจตนาอย่างที่พูดออกไป และยืนยันตามเจตนาเดิมที่ก่อตั้งโรงเรียนขึ้นมา เเละที่จะช่วยเหลือและความยุติธรรมกับนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมย้ำว่าทุกอย่างจะคลี่คลายเพียงแต่ขอเวลาในการแก้ไขปัญหา

ด้าน ดร.สุทธิพงศ์ ยงค์กมล กล่าวว่า ขอเวลาให้โรงเรียนสารสาสน์ได้ปฏิรูปโครงสร้าง แนวทางการบริหารใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ซึ่งหลังจากนี้ผู้ปกครอง และสื่อมวลชนสามารถติดตามความคืบหน้าการประชุมผู้ปกครองได้ ทางโรงเรียนอนุญาตให้มีการเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ได้

ขณะที่ ดร.สยมพร ทองเนื้อดี คณะกรรมการส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ในฐานะดูแลรับผิดชอบครูปฐมวัย ระบุว่า ตอนนี้ทางโรงเรียนได้นำบุคลากรจากส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ที่จบครูด้านปฐมวัยมาสอนแทนครูชุดเก่า รวมถึงได้ปรับแนวทางการเรียนการสอนของชั้นอนุบาล เช่น การเพิ่มกิจกรรมผ่อนคลายให้เด็กในช่วงเช้า

โดยอยากฝากถึงผู้ปกครองว่า ทีมส่วนกลางที่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ตั้งใจปรับปรุงด้านอนุบาลให้ดีขึ้น และยอมรับว่าภาพที่เกิดขึ้นสร้างความตระหนักใจกับทุกฝ่าย แต่ก็ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการการแก้ไขปัญหา โดยผู้ปกครองสามารถสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาได้ที่ ตนเอง, ดร.วริษสนันท์ เดชปานประสงค์ คณะทำงานจากส่วนกลาง และ นางวารุณี เผือกเทศ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน