เศรษฐกิจมาเลเซียโตเร็ว ไตรมาสสองขยายตัว 5.9%
เศรษฐกิจมาเลเซียไตรมาสสองเติบโต 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มากยิ่งกว่า 4.2% ในไตรมาสแรก ขณะที่เพื่อนบ้านอาเซียนบางประเทศเติบโตระดับ 6%
เว็บไซต์นิกเคอิเอเชียรายงานข้อมูลจากธนาคารกลางมาเลเซีย ถึงตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศของมาเลเซีย ระหว่างเดือนเม.ย.- มิ.ย. เติบโตแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสี่ปี 2565 ที่ 5.9% เกือบจะเท่ากับผลสำรวจของรอยเตอร์จากนักเศรษฐศาสตร์ 20 คนระหว่างวันที่ 7-13 ส.ค.67 ที่มองว่า เศรษฐกิจมาเลเซียไตรมาสสองขยายตัว 5.8%
หากพิจารณาในรายละเอียด การบริโภคภาคเอกชนยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสสอง ได้แรงหนุนจากการลงทุนที่เข้มแข็งทั้งจากภาครัฐ และเอกชน
อับดุล ราชิด กัฟฟอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางระบุ
“ในภาพรวมคาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวเข้าใกล้ 4% ปลายๆ ถึง 5% (ปีนี้) แต่แน่นอนว่ายังต้องขึ้นอยู่กับความเสี่ยงความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกบานปลาย และผลผลิตสินค้าโภคภัณฑ์คาดว่าตกต่ำ”
นอกจากนี้เศรษฐกิจมาเลเซียยังได้อานิสงส์จากเทคโนโลยีโลกที่อยู่ในวงจรขาขึ้น กิจกรรมการท่องเที่ยวแข็งแกร่งกว่าเดิมเพิ่มเติมจากการทำโครงการ การลงทุนที่มีอยู่แล้ว และโครงการใหม่
การส่งออกขยายตัว 8.4% หลังจากโต 5.2% ในไตรมาสแรก เนื่องจากประเทศยังคงได้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากการที่บริษัทระดับโลกเปลี่ยนซัพพลายเชน
การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจาก 4.7% ในไตรมาสแรก มาอยู่ที่ 6.0% ได้แรงหนุนจากเงื่อนไขตลาดแรงงานดี มีนโยบายสนับสนุนมากขึ้น
ในรายอุตสาหกรรม ภาคการผลิตเติบโต 4.7% เพิ่มขึ้นจาก 1.9% ในไตรมาสหนึ่ง ภาคบริการขยายตัว 5.9% จาก 4.8% ในไตรมาสก่อนหน้า
ภาคเกษตรกรรมขยายตัว 7.2% จาก 1.7% ในไตรมาสหนึ่งผลพวงจากอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ตรงข้ามกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และเหมืองหินชะลอตัวลงจาก 5.7% มาอยู่ที่ 2.7% ในไตรมาสสอง ผลพวงการผลิตก๊าซธรรมชาติอ่อนแรง
ธนาคารกลางคาดการณ์ว่า รายได้จากการท่องเที่ยวปีนี้จะทะลุ 2.24 หมื่นล้านริงกิต (1.79 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 2.14 หมื่นล้านริงกิต ในปี 2566 ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวคาดว่าสูงกว่าระดับก่อนโควิดระบาดที่ราว 27.3 ล้านคน อานิสงส์การเพิ่มเที่ยวบิน อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวจีน และอินเดียเพิ่มขึ้นจากโครงการยกเว้นวีซ่า
ช่วงครึ่งแรกของปีเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ทะลุระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน แสดงให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโต ธนาคารกลางรายงานว่า ปีนี้นับถึงวันศุกร์ (16 ส.ค.67)เงินริงกิตแข็งค่าขึ้นแล้ว 3.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แม้สกุลเงินมาเลเซียส่งสัญญาณฟื้นตัวแข็งแกร่ง แต่ธนาคารกลางกล่าวว่า เงินริงกิตยังคงเผชิญกับความผันผวน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย ไม่แน่นอน
ส่วนประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามรายงานเศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัว 6.93% ฟิลิปปินส์ 6.3%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์